ข้อควรรู้ก่อนทานคอลลาเจน เพื่อสุขภาพที่ดี
คอลลาเจน แม้จะเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกายของเราทุกคน แต่การกินอาหารเสริมคอลลาเจนเพื่อบำรุงผิวไม่ให้มีริ้วรอยก่อนวัยและขาวใสเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นก็อาจมีข้อจำกัดสำหรับบางคนด้วยเช่นกันโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือบางคนอาจกินไม่ถูกวิธีโดยนำไปผสมกับอาหารบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาอันตรายต่อร่างกายได้ วันนี้เราจึงมาแบ่งปัน ข้อควรรู้ก่อนทานคอลลาเจน และข้อห้ามสำหรับการกินคอลลาเจนกัน จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
โทษของคอลลาเจน หากได้รับต่อเนื่องมากเกินไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในร่างกาย โดยคอลลาเจนนั้นจะพบได้มากตามกระดูกและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย หน้าที่ของคอลลาเจนจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้กับร่างกายของเรา โดยคอลลาเจนนั้นในวัยเด็กจะมีปริมาณมากแต่จะลดน้อยลงไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น และเมื่ออายุประมาณ 35 ปี ขึ้นไป ร่างกายของคนเรานั้นก็จะเริ่มที่จะผลิต คอลลาเจน ได้น้อยลงไปประมาณ 30 – 35% จึงทำให้คนวัยนี้หันมาดูแลสุขภาพและรับประทานคอลลาเจนกันมากขึ้น แต่คอลลาเจนก็ไม่ได้มีข้อดีอย่างเพียงอย่างเดียว งั้นเราลองมาดูข้อเสียของคอลลาเจนกันว่าจะมีอะไรบ้าง
-
อาจเกิดอาการแพ้คอลลาเจน
จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนส่วนมากที่มีขายอยู่นั้นมักจะผลิตมากจากสัตว์ทะเลน้ำลึกซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น หอยเป๋าฮื้อ, หอยมุก หรือไข่ปลาคลาเวียร์ เป็นต้น เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่แพ้อาหารทะเลและแพ้โปรตีนนั้นไม่ควรรับประทานโดยเด็ดขาด เพราะอาหารทะเลก็คือโปรตีนชนิดหนึ่ง ฉะนั้นก่อนที่จะซื้อคอลลาเจนมารับประทานควรที่จะต้องตรวจสอบว่าคอลลาเจนที่ต้องการใช้นั้นผลิตมาจากอะไร
-
เสี่ยงกับสารปนเปื้อน
อย่างที่บอกไปว่าคอลลาเจนส่วนใหญ่นั้นจะผลิตมาจากสัตว์ทะเลน้ำลึก จึงมีโอกาสที่จะมีสารปนเปื้อนอย่างพวกโลหะหนักติดมาด้วย เช่น สารตะกั่ว, สารปรอท หรือ สารปนเปื้อนชนิดอื่น ๆ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะรับประทานคอลลาเจนต้องตรวจสอบดูซะก่อน ว่าคอลลาเจนที่ท่านจะรับประทานนั้นมีการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) หรือไม่
-
ผู้เป็นโรคไตควรหลีกเลี่ยง
โดยปกติทั่วไปโปรตีนจะถูกดูดซึมโดยไตจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปอยู่แล้ว หากคุณรับทานคอลลาเจนเพิ่มเข้าไปอีกไตก็จะต้องทำงานเพิ่มเพื่อดูดซึมคอลลาเจน ซึ่งนั่นทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นซึ่งถ้าหากคุณรับประทานทุกวันติดต่อกันหลายปีก็เท่ากับว่าไตต้องทำหน้าที่ในการดูดซึมและขับของเสียอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะไตวายได้เพราะฉะนั้นคนที่เป็นโรคไตไม่ควรรับประทานเด็ดขาด
-
ปริมาณแคลเซียมในร่างกายสูงเกินไป
เว็บไซต์ MedlinePlus ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ได้ระบุไว้ว่า การมีระดับปริมาณแคลเซียมที่สูง (Hypercalcemia) มีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากผลข้างเคียงของอาหารเสริมคอลลาเจน ซึ่งร่ายกายปกติของคนเรานั้นแคลเซียมจะอยู่ที่ 8.5 – 10.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ถ้าหากวัดได้มากเกินไปก็จะมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน ท้องผูก หรือ หัวใจเต้นผิดปกติได้
จะเห็นได้ชัดว่าการรับประทานอาหารเสริมประเภท คอลลาเจน นั้นก็ไม่ได้มีแต่เพียงด้านดี ด้านเดียว แต่ยังมีโทษและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าหากรับประทานไม่ถูกวิธีและปริมาณที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นคนที่รับประทานคอลลาเจนจะต้องศึกษาดูให้ดีก่อนและควรที่จะรับประทานให้พอเหมาะพอดี กับร่างกาย เพื่อที่จะทำให้คอลลาเจนนั้นเข้าไปช่วยเสริมสร้างและส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเรามากที่สุด
ข้อควรรู้ก่อนทานคอลลาเจน คอลลาเจนห้ามกินกับอะไร
คอลลาเจน เป็นอาหารเสริมที่สำคัญสำหรับร่างกายชนิดหนึ่ง โดยเมื่ออายุเริ่มเข้าวัย 35 ปี ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง จึงต้องมีการเติมคอลลาเจนเข้าไปในร่างกาย แต่ก็มีข้อห้ามในการรับประทานคอลลาเจนร่วมกับอาหารชนิดใดบ้าง เพื่อที่จะทำให้ร่ายกายนั้นดูดซึมคอลลาเจนได้ดี และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
-
ข้อควรรู้ก่อนทานคอลลาเจน ห้ามรับประทานกับ Detox
ห้ามรับประทานคอลลาเจน กับ Detox โดยเด็ดขาด เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าการ Detox นั้นเป็นการล้างสารต่าง ๆ ที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสารพิษหรือสารที่มีประโยชน์ก็ตาม ซึ่งถ้าหากคุณรับประทานคอลลาเจนไปพร้อมกันกับ Detox ก็จะทำให้คอลลาเจนนั้นถูกขับออกไปจากร่างกาย เพราะร่างกายของเรานั้นยังไม่ทันได้ดูดซึมเข้าไป ซึ่งหากต้องการทำ Detox นั้น ควรทำหลังรับประทานคอลลาเจนประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนเข้าไปก่อน
-
ไม่ควรรับประทานผลไม้ ผัก ที่มีน้ำมากๆ
เมื่อรับประทานคอลลาเจนเข้าไป ควรที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานผักและผลไม้ที่มีน้ำมาก ๆ เช่น แตงโม, แตงกวา, แคนตาลูป, แตงไทย เพราะผักและผลไม้จำพวกนี้นั้นจะทำให้ร่างกายเร่งขับเอาน้ำส่วนที่เกินออกมาทางปัสสาวะ ทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนของร่างกายนั้นลดลง ทำให้คอลลาเจนที่เรารับประทานเข้าไปนั้นไม่ได้แสดงประสิทธิภาพอย่างเต็มที่
-
ห้ามรับประทานคอลลาเจนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นไม่ได้ทำปฏิกิริยากับคอลลาเจนโดยตรง แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้การดูดซึมสารอาหารบางอย่างของร่างกายนั้นทำได้น้อยลง เพราะฉะนั้นควรรับประทานคอลลาเจนก่อนดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
-
ห้ามทำแบบไม่สม่ำเสมอ
การรับประทานคอลลาเจนแบบไม่สม่ำเสมอ เช่น วันเว้นวัน หรือ รับประทานบ้างไม่รับประทานบ้าง จะทำให้คอลลาเจนที่รับประทานเข้าไปนั้นไม่สามารถแสดงผลได้อย่างเต็มที่ หรืออาจจะไม่เห็นผลเลยก็ได้
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัด
เนื่องจากคอลลาเจนบางชนิดนั้นต้องชงผสมกับน้ำหวานเพื่อลดความคาว การที่เรารับประทานคอลลาเจนทุกวันหากเพิ่มเครื่องดื่มที่หวานจัดเข้าไปด้วย มีโอกาสเสี่ยงที่จะส่งผลให้มีน้ำตาลในเลือดมากก็เป็นได้
อาจจะไม่ถึงกับเป็นข้อห้ามที่ไม่สามารถทำได้เลย แต่ก็ไม่ควรที่จะทำตามที่กล่าวมาด้านบนทั้งหมด เพราะจะทำให้การรับประทานคอลลาเจนนั้นไม่เกิดประสิทธิภาพที่ชัดเจนและแสดงผลได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเท่ากับว่าคุณจะต้องกินคอลลาเจนเข้าไปแบบที่ร่างกายไม่ได้รับอะไรตอบแทนเลยเช่นกัน
ข้อควรรู้ก่อนทานคอลลาเจน คอลลาเจนและผลข้างเคียง
แม้ว่าอาหารเสริมคอลลาเจนจะมีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ หรืออาหารใดใดที่มีส่วนเสริมการสร้างคอลลาเจนจากธรรมชาติที่เราบริโภคเป็นชีวิตประจำวันนั้น ก็สามารถมีโอกาสที่ร่างกายของมนุษย์จะเกิดอาการแพ้และถึงขั้นเสียชีวิตได้อย่างไม่คาดคิด เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารเสริมคอลลาเจนที่เราบริโภคนั้นเป็นอันตรายน้อย หรือมีผลข้างเคียงกับเราอย่างไร โดยปกติแล้วการทานคอลลาเจนในระยะยาวเกิน 5 ปี ยังไม่มีผลวิจัยที่รองรับแน่ชัดว่าจะเกิดอันตรายกับร่างกายยกเว้นบุคคลที่มีอาการแพ้ แต่อย่างน้อยก็มีข้อควรระวังดังนี้
-
ผู้มีปัญหาเรื่องไต
เพราะไตเป็นอวัยวะที่สำคัญมากในร่างกาย ช่วยคัดกรองสิ่งต่าง ๆ ก่อนที่จะสลายหรือผ่านส่งวิตามินไปยังช่องทางอื่น ๆ ฉะนั้นผู้ที่มีปัญหาเรื่องไตหรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับไตควรหลีกเลียงการบริโภคคอลลาเจน ซึ่งในบางครั้งคอลลาเจนก็มีส่วนผสมจากโลหะหนัก (จากปลาทะเลน้ำลึก) การสะสมนั้นอาจเกิดอันตรายต่อตัวคุณได้ ทางที่ดีหากต้องการรับประทานควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด
-
บริโภคในปริมาณที่มากเกินไป
ตามหลักอาหารเสริมและยาสากลโลกได้ออกข้อแนะนำว่าไม่ควรบริโภคเกิน 10,000 – 15,000 มิลลิกรัมต่อวัน สาเหตุที่ต้องออกมาออกมีข้อเตือนก็เพราะว่าร่างกายของมนุษย์นั้นมีข้อแตกต่างกัน ในการบริโภคมากเกินขนาดอาจเกิดอาหารท้องเสีย หายใจติดขัด ความดันลดลงเนื่องจากร่างกายปรับภูมิต้านทานไม่ทัน หรือส่วนผสมอย่างอื่นในผลิตภัณฑ์เช่นน้ำตาล ที่บริโภคประจำทำให้เป็นโรคเบาหวานได้ในอนาคตเป็นต้น
-
แพ้อาหารทะเล
โดยเฉพาะปลา ข้อนี้เป็นข้อสำคัญที่ส่งผลข้างเคียงต่อผู้บริโภคอย่างน่าเป็นห่วง ทุกครั้งที่ซื้อผลิตภัณฑ์ควรศึกษาส่วนประกอบในคอลลาเจน หรืออ่านฉลากให้ครบถ้วน
-
สตรีตั้งครรภ์และสตรีที่ให้นมบุตร
แม้ว่าคอลลาเจนจะปลอดภัยแต่อย่างไรก็ดียังไม่มีงานวิจัยใดที่ออกข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับผลข้างเคียงในแม่และเด็กในท้อง ในช่วงนี้แนะนำให้คุณแม่ปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือหลีกเลี่ยงจะดีกว่า
-
ข้อควรรู้ก่อนทานคอลลาเจน ผสม
ไม่ใช่คอลลาเจนเพียว ปัจจุบันนี้คอลลาเจนมีส่วนผสมมากมายหลากหลายเพิ่มเติมลงไป ส่วนใหญ่จะช่วยเสริมส่งให้คอลลาเจนดูดซับทำงานส่งผ่านต่อได้ดียิ่งขึ้น เช่นคอลลาเจนผสมิตามินซี หรือ คอลลาเจนผสมกับแคลเซียม (ในคอลลาเจนประเภทที่ 2) แต่อย่างไรก็ดีคอลลาเจนบางตัวก็ผสมน้ำตาลปริมาณ หรือคาเฟอีนที่บางครั้งก็ยากที่จะควบคุมปริมาณในการกินต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงควรรับประมานคอลลาเจนบริสุทธิ์จะดีมาก แม้จะมีกลิ่นคาวตามธรรมชาติแต่เชื่อเถอะว่าต่อสุขภาพแน่นอน
ข้อควรรู้ก่อนทานคอลลาเจน คอลลาเจนหมดอายุกินได้มั้ย
อาหารเสริมคือสิ่งที่ช่วยทดแทนในส่วนที่ร่างกายขาดหาย บางครั้งอาหารก็ไม่สามารถมีประสิทธิภาพเทียบเท่าเช่นคอลลาเจน ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนชนิดเม็ดหรือผงการคงสภาพไว้เช่นนั้นทำให้ยืดอายุได้มากที่สุด ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในสายนักรักสุขภาพ ในบางครั้งก็ตุนของเยอะจนลืม จนคอลลาเจนหมดอายุเสียแล้ว ว่าแต่…ยังกินได้มั้ยนะ
ตามหลักโดยทั่วไปแล้วอาหารเสริมประเภทคอลลาเจนไม่ว่าชนิดใดก็ตาม การเสื่อมคุณภาพส่วนใหญ่แล้วมาจากคุณภาพของสารคอลลาเจนเป็นตัวหลัก และสารประกอบอื่น ๆ ที่เป็นตัวรอง (แต่งสี กลิ่น สารคงสภาพ) ทำให้คอลลาเจนมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคจากภายนอกได้ยาก และไม่ก่อเกิดอันตรายกับร่างกายเมื่อรับประทานหลังหมดอายุไปแล้ว ถ้าหากคอลลาเจนอยู่ในบรรจุภัณฑ์ซีลแน่น ไม่ผ่านการใช้งานก็ถือว่ายังปลอดภัย แต่อย่างไรก็ดีมีข้อสังเกตดังนี้
- มีการขึ้นรา
- สีเริ่มเปลี่ยนไป
- กลิ่นผิดปกติไม่เหมือนเดิมอย่างมาก ไม่ควรบริโภคต่อเด็ดขาด
- จับตัวเป็นกลุ่มก้อน
- แคปซูลเริ่มเปื่อยยุ่ย มีน้ำมันไหลออกมา
ทุกข้อที่กล่าวนั้น ไม่ควรบริโภคต่อเด็ดขาด เพราะสามารถเกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ แต่หากรับประทานไปแล้วแนะนำให้คอยสังเกตอาการ หากมีอาหารปวดหัว คลื่นไส้ ปวดท้องท้องเสีย และมีอาเจียนควรไปพบแพทย์ แต่ถ้าผ่านไป 24 ชั่วโมงไม่มีอาการผิดปกติใดใดก็ถือได้ว่ายังปลอดภัย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อควรรู้ก่อนทานคอลลาเจนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกรับประทานคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี ? และเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายควรศึกษาประโยชน์และโทษของแต่ละแบรนด์ทุกครั้งก่อนรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือแพ้อาหารทะเลควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าสามารถรับประทานคอลลาเจนได้หรือไม่
แหล่งที่มา :
- What Are the Side Effects of Collagen Supplements?. https://www.livestrong.com/article/325664-side-effects-of-taking-collagen-supplements/
- การกิน collagen ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้หรือไม่. https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=3431
- กินคอลลาเจนนานๆจะเกิดอะไรขึ้น. https://www.youtube.com/watch?v=mpVis4MMzOI
- Top 6 Benefits of Taking Collagen Supplements. https://www.healthline.com/nutrition/collagen-benefits#basics
- Is Taking Collagen Safe for Your Kidneys?. https://www.healthline.com/nutrition/collagen-side-effects-on-kidney#should-you-avoid-it
- How Much Collagen Should You Take per Day?. https://www.healthline.com/nutrition/how-much-collagen-per-day
- อาหารเสริม วิตามิน หมดอายุยังกินได้อยู่ไหม มีคำตอบ. https://www.charmace.com/blog/article/1889.html