คอลลาเจนลดความอ้วน เปิดงานวิจัยช่วยได้จริงหรือไม่ แชร์เคล็ดลับกินยังไงให้ได้ผล

คอลลาเจนลดความอ้วน

Table of Contents

คอลลาเจนลดความอ้วน เปิดงานวิจัยช่วยได้จริงหรือไม่ แชร์เคล็ดลับกินยังไงให้ได้ผล

คอลลาเจนลดความอ้วน ได้จริงหรือ ? คอลลาเจนเป็นสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ส่งผลดีให้กับผู้ที่รับประทาน และมีส่วนช่วยสําคัญที่ทําให้ระบบการเผาผลาญสามารถทํางานได้ดีขึ้น หากร่างกายขาดคอลลาเจนก็จะทําให้ระบบการเผาผลาญทํางานได้น้อยลง การดึงเอาไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงานเพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อก็จะน้อยลงไปด้วย อาจจะทําให้อ้วนง่ายขึ้นหรือลดน้ําหนักลดลงยากกว่าเดิมนั่นเอง 


คอลลาเจนลดความอ้วน ได้จริงหรือไม่?

คอลลาเจนลดความอ้วน

เป็นที่น่าทึ่งเมื่อนักวิจัยค้นพบว่า คอลลาเจนนั้นสามารถเพิ่มระดับครีเอทีน (Creatine) ที่เป็นสารเคมีประกอบขึ้นจากกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ไกลซีน เมทไทโอนีนม และอาร์จีนีน ครีเอทีนอยู่ในกล้ามเนื้อประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ครีเอทีนเกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานที่จำเป็นต่อกล้ามเนื้อ ทำให้เรายืดหยุ่น และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเพื่อลดไขมันส่วนเกิน อีกทั้งเร่งการทำงานของระบบ Metabolism ได้จริง

และน่ามหัศจรรย์ขึ้นไปอีก ผลงานวิจัยระบุว่าในช่วงสองชั่วโมงแรกที่นอนหลับ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Alpha phase period กล่าวคือร่างกายจะสลายไขมันได้อย่างดีที่สุด หากทานคอลลาเจนเข้าไปในช่วงก่อนหน้านี้ จะส่งผลให้ตอนหลับร่างกายจะนำไขมันสะสมที่เป็นส่วนเกินมาเผาผลาญในรูปของพลังงานที่ดี และบวกกับการทำงานร่วมกับฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ส่งเสริมเผาผลาญไขมันทวีคูณ 

อย่างไรก็ตามกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นได้แลเห็นผลหากผู้บริโภครับประทานคอลลาเจนแบบเพียว ไม่ผสมน้ำตาล และรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมอย่างน้อย 8,000 มิลลิกรัมขึ้นไป

ผู้ผลิตก็ตอบสนองผู้บริโภคเป็นอย่างดีโดยการผลิตที่หลากลาย จึงไม่แปลกใจที่ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ต่างหันมาบริโภคอาหารเสริมคอลลาเจนเพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ คอลลาเจนสามารถลดริ้วรอย ฝ้า กระ ได้ อีกทั้งทำให้ผิวยังแข็งแรง อิ่มฟู และสวยงามอีกด้วย


กินคอลลาเจนอย่างไรให้ได้ผลด้วย 5 วิธีง่าย ๆ 

คอลลาเจนลดความอ้วน

การกินคอลลาเจนนั้นมีความปลอดภัยสูงมาก ยกเว้นว่าหากคุณมีอาการแพ้อาหารทะเล จำพวกปลา ปลาทะเลลึก แต่อย่างไรก็ดีเรายังมีทางออกเสมอ เพราะยังมีคอลลาเจนที่ผลิตจากพืช สาหร่ายสีแดง สาหร่ายทะเลน้ำลึก ซึ่งมีคุณสมบัติเทียบเท่าจากสัตว์ได้เช่นกัน  

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบประเภทคอลลาเจนมากกว่า 18 ชนิด แต่ชนิดที่มักจะได้ยินบ่อยนั้นมี 3 ประเภท ได้แก่ Type I พบได้มากที่สุดในผิวหนัง เล็บ ผม, Type II เกี่ยวข้องกับลูกตา กระดูกและข้อต่อโดยตรง และ Type III พบร่วมกันกับคอลลาเจน Type I แทรกซึมอยู่ในข้อต้อต่างๆ ผนังหลอดเลือด และหลอดเลือด 

เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าคุณสมบัติของคอลลาเจนแต่ละตัวนั้นไม่เหมือนกันเลย แต่จะมีประเภท Type I และ Type III ที่คลับคล้ายกันบ้างแต่ Type III จะเน้นอวัยวะภายใน ที่นี้เราก็จะแยกได้แล้วว่าคอลลาเจนแต่ละประเภทมีประโยชน์ต่างกัน ฉะนั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า

  1. รับประทานคอลลาเจนให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง 

หากเราต้องการผิวสวยแต่ไปรับประทานคอลลาเจน Type II ที่เกี่ยวข้องกับกระดูก นอกจากจะไม่เห็นผลตามที่ต้องการแล้วยังเสียทั้งเงินและเสียทั้งเวลาอีกด้วย และที่สำคัญควรเลือกรับประทานคอลลาเจนชนิดผง รวมไปถึงมีโมเลกุลเล็กเนื่องจากคอลลาเจนลักษณะนี้ดูดซึมและนำไปใช้ประโยชนืได้มากกว่า

  1. รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

หากได้รับน้อยไปร่างกายได้รับคอลลาเจนในส่วนเพิ่มเติมก็จริง แต่ว่าจะเห็นผลช้ากว่ามาก ๆ หากต้องการให้เห็นผลดีและเร็ว แนะนำให้บริโภคอย่างน้อย 8,000 – 15,000 มิลลิกรัมต่อวัน 

  1. รู้เวลารับประทาน

เพื่อให้เห็นประโยชน์ที่สูงสุด ควรรับประทานตอนท้องว่างเท่านั้น กล่าวคือเป็นช่วงที่พวกเราเพิ่งตื่นนอนหรือก่อนนอนนั่นเอง หรือถ้าไม่สะดวกช่วงเวลานั้นจริงๆ ก็รับประทานตอนท้องว่างระหว่างวันก็ได้เหมือนกัน

  1. รับประทานคู่กับวิตามินเสริม

ส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์คอลลาเจนจะมีการจับคู่ของแต่ละประเภท เช่น เร่งผิวใสอิ่มน้ำ Type I + Vitamin C ผิวแข็งแรงไร้สิว Type I + Zinc หรือเสริมสร้างกระดูกType II + Calcium เป็นต้น

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

อีกข้อที่เป็นเบสิคที่สำคัญ เพราะไม่ว่าคอลลาเจนจะช่วยขึ้นฟื้นฟูได้มีประสิทธิภาพมากขนาดไหน การนอนก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวและเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้มีเวลาฟื้นฟูมากขึ้นนั่นเอง


 ไม่ว่าจะเสียเงินซื้อคอลลาเจนกินมากเท่าไหร่ อาจทำให้เสียทั้งเงินและเสียทั้งเวลาไปแบบไร้ประโยชน์ หากยังไม่เปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันอย่างสูบบุหรี่ทุกวัน ดื่มแอลกอฮอล์ อยู่ในสถานที่ที่ก่อให้เกิดมลภาวะและไม่ใช้ครีมกันแดด ทานแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งจะทำให้น้ำหนักเพิ่ขึ้นมอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเร่งเวลาให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายเสื่อมเร็วขึ้น ทำให้ผิวเหี่ยวแห้ง แถมยังทำให้ดูแก่ก่อนวัย ฉะนั้นการทานคอลลาเจนให้ได้ผลก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพร่างกายของเราด้วยเช่นกัน


แหล่งที่มา : 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจลาตินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร หาได้จากที่ไหน
สาระความรู้
เจลาตินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร หาได้จากที่ไหน

เจลาตินคืออะไร ? คำตอบคือ โปรตีนที่ได้จากการสลายตัวของคอลลาเจน (ปรุงสุก) มีลักษณะหนืดคล้ายเจลหรือเยลลี่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดี

อ่านต่อ
3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง ช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องรู้
สาระความรู้
3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง ช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องรู้

3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง วิธีการรับมือกับช่วงวัยที่ใกล้หมดประจำเดือน จะมีอะไรที่คุณควรรู้บ้างนั้น เรารวบรวมมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ
เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก
สาระความรู้
เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก ดูแลผิวอย่างไร ถ้าไม่อยากให้แก่ไว 

เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก ถ้าไม่อยากให้แก่ไว คือ ทาครีมกันแดด นอนหลับอย่างมีคุณภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเสริมด้วยเคล็ดลับบำรุงผิว

อ่านต่อ
อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง
สาระความรู้
15 อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง พร้อมเทคนิคฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน

15 อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง อุดมไปด้วยโปรตีน โอเมก้า 3 วิตามินบี 7 และวิตามินเอ พร้อมเทคนิคฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน สำหรับคนผิวแห้ง

อ่านต่อ
อาหารเสริมวิตามินผิว
สาระความรู้
อาหารเสริมวิตามินผิว มีอะไรบ้าง ? เปิดสาเหตุเพิ่มวิตามินให้ผิว ดีอย่างไร

เพิ่ม อาหารเสริมวิตามินผิว เสริมได้ด้วยวิตามินซี นอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใสได้มากกว่าเดิม

อ่านต่อ