คอลลาเจนลดริ้วรอย ฝ้า กระ ตอบทุกคำถามกินแล้วช่วยได้จริงหรือไม่ ?  

คอลลาเจนลดริ้วรอย

Table of Contents

คอลลาเจนลดริ้วรอย ฝ้า กระ ตอบทุกคำถามกินแล้วช่วยได้จริงหรือไม่ ?  

แสงแดดนั้นเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำลายผิวสวย ๆ ของเรา รังสี UVA ก่อให้เกิดการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ ทะลุทะลวงลงถึงผิวชั้นใน Epidermis ก่อให้เกิดฝ้า กระ และริ้วรอยที่ทำให้ชาวเราสูญเสียความมั่นใจ ซึ่งทุกคนรู้หรือไม่ว่านอกจากคอลลาเจนจะช่วยดูแลเรื่องผิวให้สวยขาวใส เด้งดึ๋งแล้ว เรื่องลดการเกิดรอยหมองคล้ำจากแสงแดดและป้องกันผิวไม่ให้ดำคล้ำง่ายอีกด้วย บทความนี้จะพาทุกคนมาดูกันว่า คอลลาเจนลดริ้วรอย ฝ้า กระ กินแล้วช่วยได้จริงหรือไม่ ? จะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้างลองไปดูกันเลย


ปัญหาผิว ฝ้า กระ และริ้วรอยเกิดจากอะไร

คอลลาเจนลดริ้วรอย

กระ ฝ้า(Melasma) เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวใต้ชั้นผิวหนัง หรือเรียกว่าเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่ทำงานมากเกินไปก่อให้ผิวคล้ำขึ้น โดยเกาะกลุ่มกัน หรือรวมกระจุกตัวกัน ปกติแล้วเม็ดสีเมลานินทำหน้าที่กรองแสงยูวีจากแสงแดด แต่เมื่อมากเกินไปหรือปกป้องไม่เพียงพอ ก็จะเกิดเป็น ฝ้าและกระ ในบริเวณต่าง ๆ ของผิวหนัง 

สาเหตุใหญ่ที่ก่อให้เกิดฝ้ามีดังนี้

  1. แสงแดด เป็นสาเหตุหลักที่เป็นบ่อเกิดของฝ้า
  2. พันธุกรรม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
  3.  การใช้ยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนบางชนิด ได้แก่ ฉีดยาคุมกำเนิด เม็ดยาคุมกำเนิด ซึ่งพวกนี้ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ทำให้ไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน 
  4. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย กรณีนี้คล้ายกับการใช้ยาคุมกำเนิดที่ฮอร์โมนไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน แต่ก็ไม่ต้องกังวลนัก เพราะเมื่อไหร่ที่ร่างกายกลับมาสมดุล ฝ้าก็จะจางหายไป และกรณีอื่น ๆ  เช่น ใช้เครื่องสำอางค์ผิดประเภท ตั้งท้อง เป็นต้น

ประเภทของฝ้า แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

  1. ชนิดตื้น มักเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำคล้ำ มีขอบเขตชัดเจน เม็ดสีของฝ้าตื้นจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นกำพร้า
  2. ชนิดฝังลึก มักมีสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเทา สีเทา หรือม่วงอมน้ำเงิน ไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน สามารถขยับขยายได้ทั่วและกลมกลืนกับสีผิวหนังปกติ
  3. ชนิดผสม พบได้มากที่สุดในทุกประเภท เป็นการผสมกันของทั้งชนิดตื้นและลึก
  4. ชนิดยากที่จะแยกออกอย่างชัดเจน ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นชนิดใด ส่วนมากพบในผู้ที่มีเมลานินผิวสีเข้มมาก เช่น คนแอฟริกัน เป็นต้น

ประเภทของกระ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

  1. กระตื้น เป็นจุดสีน้ำตาลขนาดเล็กไม่เกิน ครึ่งเซนติเมตรกระจัดกระจายอยู่ร่างกายและใบหน้า แต่ไม่น่าเป็นห่วง เพราะสามารถจางลงได้เองตามธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงเเสงแดด
  2. กระลึก เป็นจุดสีน้ำตาลเทา มีขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร เกิดขึ้นบนชั้นผิวหนังชั้นแท้
  3. กระแดด มีลักษณะเป็นวงกลมสีน้ำตาลเป็นจุด และเรียบกับผิว พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุ
  4. กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มเนื้อเล็กๆ สีน้ำตาล และสีดำสามารถเกิดขึ้นได้บนทุกส่วนของร่างกายไปจนถึงลำตัวทำ ใช้เลเซอร์เท่านั้นในวิธีรักษา

ริ้วรอยเกิดมาจากสาเหตุใด

ริ้วรอย (Wrinkle) เกิดจากอีลาสตินของเซลล์ผิวน้อยลงและการผลิตคอลลาเจนลดลง ส่งผลให้ผิวนั้นไม่แข็งแรง อ่อนแอ หย่อนคล้อยได้ และเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่นการเครียด น้อยน้อย มลภาวะรอบด้าน หรือแสงแดดจ้าเกินไป ทำให้เกิดริ้วรอยได้ทั้งนั้น 

ริ้วรอยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. ริ้วรอยเเบบตื้น เกิดในผิวชั้นหนังกำพร้า สาเหตุจากผิวขาดน้ำหรือไม่สามารถอุ้มน้ำได้ดี ความแห้งกร้านก็จะมาเยือนหร้อมกับความเหี่ยวย่น
  2. ริ้วรอยแบบลึก เกิดจากการกดตัวของชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้หนังชั้นกำพร้าย่นพับกันเป็นรอยลึกและใหญ่ ซึ่งสาเหตุก็มาจาก การแสดงสีหน้า ยิ้ม ขมวดคิ้ว เป็นต้น

แหล่งที่มา :


ทำไมคอลลาเจนถึงช่วยลด ฝ้า กระ และริ้วรอย

คอลลาเจนลดริ้วรอย

ทำไมคอลลาเจนจึงทำได้เช่นนั้น คุณหมอผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่า การที่รับประทานคอลลาเจนนั้นทำยืดหยุ่น ชุ่มชื้นมากขึ้นและทำให้ผิวมีความเเข็งแรงมากขึ้น เมื่อเรารับประทานคอลลาเจนในระยะที่เพียงพอประกอบกับปริมาณที่พียงพอในแต่ละวัน ชั้นผิวของเราก็จะมีความฟูมากขึ้น แข็งแรงยิ่งขึ้น ทำให้เมื่อเราไปเจอกับแสงแดดหรือแสงไฟจากภายในตัวตึกอาคาร ความเเข็งแรงของชั้นผิวหนังนี้นั่นเองค่ะ ที่ทำหน้าที่ประดุจกำแพงที่เป็นเกราะป้องกัน ทำให้แสงต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบผิว กระตุ้นการเกิดฝ้าได้ยากขึ้น ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าคอลลาเจนมีส่วนช่วยบำรุงผิวให้ใส สุขภาพดีขึ้นได่อย่างมีนัยยะสำคัญ หากคนที่เป็นฝ้าหากรับประทานคอลลาเจนสม่ำเสมอจะมีผิวที่แข็งแรงเมื่อเทียบกับคนที่มีอายุเท่ากันแต่ไม่ได้รับประทานคอลลาเจน 

แหล่งที่มา :


แม้คอลลาเจนอาจจะไม่ได้มีคุณสมบัติรักษาฝ้า กระ และริ้วรอยโดยตรง แต่จะเพิ่มความชุ่มชื้น ล็อคน้ำใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวม่เหี่ยวย่นและแข็งแรง โอกาสที่จะเกิดฝ้านั้นน้อยลงกว่าคนอื่น ๆ นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อย่างคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อม คอลลาเจนช่วยลดสิวและจุดด่างดำต่าง ๆ รวมไปถึงบำรุงเส้นผมและเล็บให้แข็งแรงขึ้นได้ด้วย ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาดังกล่าวการรับประทานคอลลาเจนเสริมก็เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะกินคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี ในปัจจุบันมีคอลลาเจนหลากหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ เราขอแนะนำให้เริ่มจากการศึกษาส่วนผสมของแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ก่อนเพื่อความปลอดภัย จากนั้นจึงค่อยเปรียบเทียบราคาค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประโยชน์ของเจลาติน มีอะไรบ้าง ครอบคลุมส่วนไหน
สาระความรู้
ประโยชน์ของเจลาติน มีอะไรบ้าง ครอบคลุมส่วนไหน

เคยสงสัยไหมว่า เวลาพูดถึงคอลลาเจน ทำไมมีเจลาตินเข้ามาเป็นหนึ่งในหัวข้อสนทนา แล้วแท้จริง ประโยชน์ของเจลาติน นั้นมีอะไรบ้าง? ไปหาคำตอบด้วยกัน

อ่านต่อ
เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?
สาระความรู้
เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?

เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร ตั้งแต่กระบวนการผลิต จุดประสงค์ในการใช้งาน คุณสมบัติ ไปจนถึงแคลอรี ควรเลือกแบบไหนดี?

อ่านต่อ
เจลาตินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร หาได้จากที่ไหน
สาระความรู้
เจลาตินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร หาได้จากที่ไหน

เจลาตินคืออะไร ? คำตอบคือ โปรตีนที่ได้จากการสลายตัวของคอลลาเจน (ปรุงสุก) มีลักษณะหนืดคล้ายเจลหรือเยลลี่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดี

อ่านต่อ
3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง ช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องรู้
สาระความรู้
3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง ช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องรู้

3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง วิธีการรับมือกับช่วงวัยที่ใกล้หมดประจำเดือน จะมีอะไรที่คุณควรรู้บ้างนั้น เรารวบรวมมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ
เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก
สาระความรู้
เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก ดูแลผิวอย่างไร ถ้าไม่อยากให้แก่ไว 

เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก ถ้าไม่อยากให้แก่ไว คือ ทาครีมกันแดด นอนหลับอย่างมีคุณภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเสริมด้วยเคล็ดลับบำรุงผิว

อ่านต่อ
อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง
สาระความรู้
15 อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง พร้อมเทคนิคฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน

15 อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง อุดมไปด้วยโปรตีน โอเมก้า 3 วิตามินบี 7 และวิตามินเอ พร้อมเทคนิคฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน สำหรับคนผิวแห้ง

อ่านต่อ