คอลลาเจนวัตสัน 10 อันดับที่ดีที่สุด แนะนำวิธีเลือกและกินยังไงให้เวิร์ค
ในปัจจุบันคอลลาเจนในตลาดมีให้เลือกซื้อหลากหลายแบรนด์ เน้นคุณประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนเหมาะสมกับผู้สูงอายุ คอลลาเจนบำรุงผม คอลลาเจนบำรุงผิวขาว นอกจากนี้ยังมีช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย ซึ่งหนึ่งในช่องทางที่หลาย ๆ คนมักนึกถึงเมื่อต้องการซื้อสินค้าที่เกี่ยวสุขภาพและความงามคงหนีไม่พ้น คอลลาเจนขายดีในเซเว่น หรือคอลลาเจนในวัตสัน แหล่งจำหน่ายสินค้าความงามและสุขภาพยอดนิยมที่มีอยู่ทุกที่และง่ายต่อการเข้าถึง บทความนี้เลยอยากมาแนะนำ 10 อันดับ คอลลาเจนวัตสัน ยอดนิยม ที่หลาย ๆ คนเลือกซื้อ พร้อมแนะนำเคล็ดบลับเลือกและกินยังไงให้เวิร์ค จะมีอะไรน่าสนใจบ้างลองไปดูกันเลยค่ะ
คอลลาเจนวัตสัน 10 อันดับที่ดีที่สุด กินแล้วผิวสวย เป๊ะปัง ชัวร์
หลังจากเราทราบเคล็ลับต่าง ๆ กันไปบ้างแล้วเดี๋ยวเราลองมาดู 10 อันดับคอลลาเจนวัตสัน กันเลยดีกว่าว่ามีแบรนด์ไหนน่าซื้อไปลองรับประทานบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
1.Ubereen Collagen
แบรนด์คอลลาเจนยอดนิยม แบรนด์แรกที่เราอยากจะมาแนะนำกันเลยก็คือ ยูเบรีนคอลลาเจน อาหารเสริมคอลลาเจนไดเปปไทด์ที่มีสารสกัดส่งจากแล็ปในยุโรป ประเทศอิตาลี ทำให้มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 200 ดาลตัน ละลายเร็ว ดูดซึมง่าย ที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาว สามารถผสมกับน้ำเปล่า น้ำผักผลไม้เพื่อเสริมคุณค่าการบำรุง หรือเครื่องดื่มอาหารทั่วไปในชีวิตประจำวัน คอลลาเจนของยูเบอรีนยังมีสารสกัดจากธรรมชาติที่เป็นเกรดพรีเมี่ยมจากทั่วโลกถึง 5 ชนิดที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของคอลลาเจนแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียน ยืดหยุ่น อ่อนเยาว์ รวมไปถึงซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างเซลล์ต่าง ๆ บำรุงกระดูก
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดผง
ชนิดของคอลลาเจน : Dipeptide
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1-2 ช้อนตวง (1 ช้อน = 5,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 10-20 ครั้ง (1 กระปุก มี 100,000 มิลลิกรัม)
ราคา : 890 บาท
Collagen from : Italy
2.Watsons วัตสัน คอลลาเจน เปปไทด์ 4500 มก.
คอลลาเจนผลิตโดยวัตสัน โดยเป็นสารสกัดคอลลาเจนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีคุณสมบัติโมเลกุลเล็ก ละลายทันที ไม่มีกลิ่นคาว มีส่วนผสมบำรุงผิวอื่น ๆ เพิ่มเติมอาทิ L-Cysteine , Acerola cherry, Q10 , Lycopene เป็นต้นที่ช่วยสงเสริมการทำงานของคอลลาเจนและการดูดซึมให้มีประสิทธิภาพมากยั่งขึ้น นอกจากนี้ยังรับประทานง่ายด้วยรสชาติของพืชตระกูลเบอร์รี่ และช้ซูคราโลส เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลรับประทานแล้วไม่อ้วนแน่นอน
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดผง
ชนิดของคอลลาเจน : Peptide, Dipeptide,
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1 ซอง (1 ซอง = 15,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 15 วัน (1 กล่องมี 15 ซอง)
ราคา : 399 บาท
Collagen from : Japan
3.Vida Collagen
คอลลาเจนรูปแบบผงส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีส่วนผสมคอลลาเจนสุดคุ้มค่า กินซองเดียวแต่ได้สารสกัดถึงสามรูปแบบได้แก่ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide) , คอลลาเจนเปปไทด์ ( Collagen Peptide) และคอลลาเจนไดเปปไทด์ ( Collagen Dipeptide) ซึ่งทั้งสามตัวนี้เป็นคอลลาเจนคุณภาพ ดูดซึมง่าย ช่วยให้ผิวของเราอ่อนเยาว์ แลดูกระจ่างใส เหมือนผิวเด็กอยู่เสมอ
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดผง
ชนิดของคอลลาเจน : Peptide, Dipeptide, Tripeptide
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1 ช้อนตวง (1 ช้อน = 3,500 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 28 วัน (1 กระปุกมี 100,000 มิลลิกรัม)
ราคา : 399 บาท
Collagen from : Japan
4.BLOSS Glow Radien Booster
คอลลาเจนรูปแบบเจลลี่ซองรับประทานง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยไม่มีเวลาด้วยส่วนผสมที่มีคอลลาเจนไตรเปปไทน์จากปลาทะเล ผสานคุณค่าสารอาหารบำรุงผิวอย่าง ทับทิม,อะเซรอล่า,เชอร์รี่,มะเขือเทศ และเมล็ดองุ่น ช่วยบำรุงให้ผิว นุ่มลื่น เรียบเนียน กระจ่างใส ช่วยป้องกันผิวคล้ำจาการโดนแสง ทั้งรังสี UVA และ UVB พร้อมให้คุณเผยผิวงามได้อย่างมั่นใจ
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดเจลลี่
ชนิดของคอลลาเจน : Tripeptide
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1 ซอง (1 ซอง = 15,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 5 วัน (1 กล่องมี 5 ซอง)
ราคา : 488 บาท
Collagen from : Korea
5.NUUI Collagen
หนุย วิท วีอีอาร์ อลลาเจน ไตรเปบไทด์ จากประเทศญี่ปุ่น ที่สกัดจากปลาน้ำจืด 100% โดยมาในรูปแบบสารสกัดชนิดผง ดื่มง่ายรสชาติดี มีส่วนผสมของสารอาหารอื่น ๆ อาทิ , L-glutathione, Citrus, Grape Skin, Pine Bark, Zinc Amino Acid,Coenzyme Q10, Goji Berry และสารสกัดชั้นนำจากจากทั่วทุกมุมโลก รวมแล้วมีมากกว่า 22 ชนิด ที่ช่วยส่งเสิรมการทำงานของคอลลาเจนและช่วยดูแลผิวพรรณให้สวยงามได้ภายในหนึ่งเดียว
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดผง
ชนิดของคอลลาเจน : Tripeptide
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1 ซอง (1 ซอง = 10,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 6 วัน (1 กล่องมี 6 ซอง)
ราคา : 288 บาท
Collagen from : Japan
6.SWISSE Bella Collagen
สวิสเซ เบลล่า คอลลาเจน เจลลี่ คอลลาเจนรูปแบบเจลลี่ รับประทานง่าย ไม่มีกลิ่นคาวด้วยกลิ่นหอมและรสชาติของส้ม สำหรับคอลลาเจนที่เป็นคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก 2500 มิลลิกรัม และน้ำส้มสีเลือดเข้มข้นจากเมืองซิซิลี ประเทศอิตาลี ช่วยบำรุงผิวให้มีน้ำมีนวล สดชื่นและเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ด้วยสรรพคุณของส้มสีเลือดนอกจากจะช่วยส่งเสริมการทำงานของคอลลาเจนได้เป็นอย่างดีแล้วยังช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องผิวคุณจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระภายนอกได้ด้วย
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดเจลลี่
ชนิดของคอลลาเจน : Peptide
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1 ซอง (1 ซอง = 15,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 10 วัน (1 กล่องมี 10 ซอง)
ราคา : 888 บาท
Collagen from : Korea
7.CHAMÉ Collagen
ชาเม่ ไฮโดรไลซด์ คอลลาเจน ไตรเปปไทด์ พลัส 10,000 มิลลิกรัม คอลลาเจนชื่อดังที่ใครหลาย ๆ คนน่าจะเคยผ่านตา โดยสารสกัดคอลลาเจนนำเข้ามาจากสองประเทศด้วยกันคือคอลลาเจนไตรเปปไทด์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และสารสกัดคอลลาเจนปลาหิมะจากประเทศนอร์เวย์ นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณค่าและการบำรุงที่เข้มข้นด้วยสารอาหารบำรุงผิวอื่น ๆ รวม 24 ชนิด ช่วยดูและบำรุงผิวพรรณได้อย่างรอบด้าน
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดผง
ชนิดของคอลลาเจน : Tripeptide
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1-2 ซอง (1 ซอง = 10,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 7-30 วัน (1 กล่อง บรรจุ 10 ซอง)
ราคา : 490 บาท
Collagen from : Japan, Norway
8.NEOCELL Super Collagen
คอลลาเจนชนิดเม็ดที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ที่ใช้เทคโนโลยีในการสกัดชั้นสูง รวมไปถึงผ่านกระบวนการย่อยด้วยเอนไซม์จนได้เป็นเปปไทด์สายสั้น ทำให้สารสกัดคอลลาเจนที่ดีละลายง่ายและดูดซึงได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเสริมสารสกัดอื่น ๆ อย่างารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี และไบโอติน ถือเป็นคอลลาเจนบำรุงเส้นผมที่ช่วยดูแล ผม เล็บ ผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดผง
ชนิดของคอลลาเจน : Peptide
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 6 เม็ด (1 เม็ด = 20,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 60 วัน (1 กระปุก บรรจุ 360 ซอง)
ราคา : 1,250 บาท
Collagen from : USA
9.BOMI Collagen
คอลลาเจนจากแบรนด์ Mizumi มีคอลลาเจนสกัดพรีเมียมมากถึง 3,000 มิลลิกรัม มาพร้อมสารสกัดคุณภาพอย่าง Nutrimin C 30mg ที่มาในรูปแบบของ encapsulated ทำให้ร่างกายดูดซึมได้เร็วกว่า และ Rice Bran Extract 6 mg ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล ดูอิ่มน้ำสุขภาพดีอยู่เสมอ Bomi Collagen ยังปราศจากแป้งและน้ำตาล แคลอรี่ต่ำเพียง 10 Kcal / ซอง รับประทานง่ายในรูปแบบซองฉีกแล้วรับประทานได้เลย
ประเภทคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดผง
ชนิดของคอลลาเจน : Peptide, Dipeptide
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1 ซอง (1 ซอง = 3,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 14 วัน (1 กล่องมี 14 ซอง)
ราคา : 488 บาท
Collagen from : Japan
10.Amado Colligi Collagen + Vitamin C
คอลลาเจน อมาโด้ คอลลิจิ ไฮโดรไลซด์ คอลลาเจน ไตรเปปไทด์จากปลที่ได้จากปลา ด้วยการสกัดในรูปแบบนี้ทำให้คอลลาเจนที่ได้ปราศจากน้ำตาล ไม่มีสี ดูดซึมได้ง่ายและเร็วกว่า ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น เสริมสร้างคอลลาเจนที่ผิว ผม เล็บ ข้อต่อและกระดูก ส่วนผสวมที่สำคัญอีกตัวที่มีดีไม่แพ้กันคือวิตามินซีซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนังได้ในตัว
ประเภทคอลลาเจน : Tripeptide
ชนิดของคอลลาเจน : คอลลาเจนชนิดผง
ปริมาณการรับประทาน : วันละ 1 ช้อน ตอนเช้าหรือก่อนนอน (1 ช้อน = 5,000 มิลลิกรัม)
จำนวนการรับประทาน : 20 วัน (1 กระปุกมี 160,000 มิลลิกรัม)
ราคา : 1,590 บาท
Collagen from : Japan
วิธีการเลือกซื้อคอลลาเจนใน Watson
สำหรับแบรนด์คอลลาเจนในวัตสันแน่นอนว่าทุก ๆ แบรนด์ที่นำมาจัดจำหน่ายค่อนข้างจะเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้วประมาณนึงใช่มั้ยคะ แต่ว่าด้วยความที่มีให้เลือกมากมายหลายแบรนด์เราจะมีหลักเกณฑ์ในการกินให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเราได้บ้าง เดี่ยวเราลองมาดูวิธีกันค่ะ
1.รูปแบบการกิน
อย่างที่เราทราบกันดีว่าคอลลาเจนมีรูปแบบการกินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบเม็ด แบบผง แบบเจล แบบเยลลี่ หรือแม้ในรูปแบบดื่ม ดังนั้นเราควรพิจจารณาจากไลฟ์สไตล์ของเราว่าสะดวกกับการรับประทานแบบไหน เช่นถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ควรเลือกแบบผง เพราะรูปแบบนี้ละลายและดูดซึมง่ายที่สุด แต่ข้อเสียคือต้องชงดื่มถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความสะดวกรูปแบบเม็ดหรือเยลลี่อาจจะมีความเหมาะสมกว่า เป็นต้น
2.ความต้องการในการบำรุง
ขึ้นชื่อว่าคอลลาเจนแน่นอนว่าต้องเน้นดูแลผิว แต่ในปัจจุบันแต่ละแบรนด์ก็พัฒนาส่วนผสมให้ดูแลได้รอบด้านมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะช่วยเรื่องการบำรุงผิวในด้านต่าง ๆ หรือเน้นบำรุงเฉพาะด้านเช่นเน้นบำรุงผม หรือกระดูกข้อเข่า เป็นต้น ดังนั้นเราจึงควรเปรียเทียบสรรพคุณ เพื่อดูว่าแบรนด์ไหนตรงต่อความต้องการและจุดประสงค์ในการบำรุงของเรามากที่สุด
3.ดูส่วนผสมและสารอาหารในผลิตภัณฑ์
เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ รองจากการดูในส่วนของสรรพคุณ เพราะนอกจากจะทำให้เรารู้แล้วว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้างก่อนที่เราจะรับประทานสู่ร่างกายแล้วยังทำให้เรารู้ว่าส่วนผสมมาจากไหนบ้าง มีความคุ้มค่า หรือมีคุณภาพหรือไม่ ที่สำคัญเรายังดูได้อีกด้วยว่ามีส่วนผสมของสารอาหารที่เราแพ้ด้วยหรือเปล่า เช่นบางคนแพ้ปลาก็อาจจะต้องมองหาคอลลาเจนที่มีส่วนผสมรูปแบบอื่น เป็นต้น
4.ดูความคุ้มค่า ราคาและความตอบโจทย์
เรื่องความคุ้มค่าผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ก็มักจะให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อยเลยใช่มั้ยคะ ดังนั้นเราจึงควรเปรียบเทียบทั้งส่วนผสม จำนวน และราคาของแต่ละแบรนด์ก่อนซื้อเพื่อดูความคุ้มค่า นอกจากนี้เราอาจจะต้องคำนึงว่าแบรนด์ไหนบ้างที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุดด้วยเพื่อที่การกินคอลลาเจนได้ผลลัพธ์ตรงใจของเรามากที่สุด
แหล่งที่มา
- Do Collagen Supplements Work? Experts Explain the Potential Benefits of Taking Collagen. https://www.goodhousekeeping.com/health/a20707028/collagen-supplement-explainer/
กินคอลลาเจนกินเวลาไหนดีที่สุดและกินแบบไหนได้ประโยชน์สูงสุด
ในการกินคอลลาเจนนั้น ก็มีผลวิจัยจากนักโภชนาการว่า คนเราสามารถที่จะเลือกกินคอลลาเจนในเวลาไหนก็ได้ ถ้าจะทำให้การประสิทธิภาพของคอลลาเจนนั้นเห็นผลรวดเร็วที่สุด ก็ควรที่จะเลือกกินคอลลาเจนในช่วงเวลาที่ท้องว่าง หรือ ยังไม่ได้รับประทานอาหาร เพราะจะทำให้ร่างกายนั้นจะดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเองค่ะ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้นก็น่าจะเป็นช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้า และก่อนนอน โดยจะต้องมีวิธีการกินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังต่อไปนี้
- ควรกินคอลลาเจนหลังตื่นนอนตอนเช้า และก่อนนอน เพื่อที่จะให้ร่างกายได้ดูดซึมคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่ได้รับประทานอาหาร เข้าไปในร่างกาย
- ควรดื่มน้ำมากๆ หลังจากกินคอลลาเจน เพื่อให้ร่างกายนั้นละลายสารคอลลาเจนได้ดีขึ้น ควรที่จะต้องดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายมีน้ำที่เพียงพออยู่ตลอดเวลา
- ควรกินคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินซี เพราะทั้งสองตัวนี้เป็นจะทำให้ร่างกายได้ดูดซึมคอลลาเจนได้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
- ควรกินคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของคอลลาเจน ควรที่จะต้องกินคอลลาเจนให้สม่ำเสมออยู่เป็นประจำ
- ควรกินคอลลาเจนในปริมาณที่พอดี ซึ่งจากที่นักโภชนาการได้บอก การกินคอลลาเจนควรกินวันละประมาณ 5,000 – 7,000 มิลลิกรัม และไม่ควรที่จะกินเกิน 10,000 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ควรกินคอลลาเจนแบบผงดีกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด เนื่องจากคอลลาเจนแบบผงนั้นจะลายในน้ำได้รวดเร็วกว่า และสามารถที่ตะดูดซึมเข้าไปสู่ร่างกายได้ดีกว่า
- ควรได้รับการป้องกันจากทุกด้าน สำหรับสุขภาพผิว ไม่ควรที่จะได้รับการเสริมสร้างจากคอลลาเจนเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะได้รับการป้องกันในรูปแบบอื่นด้วย เช่น เมื่อต้องออกไปเจอแสงแดดแรงๆ ก็ควรที่จะทาครีมกันแดด
และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีในการกินคอลลาเจนให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย ซึ่งสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ และรับรองว่าผิวพรรณของเราจะออกมาเปล่งปลั่ง แบบมีออร่า แน่นอน และมีสุขภาพผิวที่ดีอย่างแน่นอนค่ะ
แหล่งที่มา
- คอลลาเจน ต้องทานเวลาไหน ทำไมต้องทานคู่กับวิตามินซี. https://www.fascino.co.th/article/post/collagen-knowledge
วิธีเลือกกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุดต่อร่างกาย
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมการรับประทานคอลลาเจนนั้นควรทำอย่างไรดี บ้างทานเพื่อความสวยงานและบ้างเพื่อประโยชน์สุขภาพจากภายใน ฉะนั้นเราควรตั้งเป้าหมายในการรับประทานว่าเราทานไปเพื่ออะไร และหัวข้อดังต่อไปนี้เป็นตัวไกด์ไลน์ให้เพื่อน ๆ ให้พึงพิจารณาและเลือกกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุดกันค่ะ
1. เลือกทานคอลลาเจนล้วน
หลายคนสงสัย อ้าว! มีคอลลาเจนปลอมด้วยเหรอ อย่าเพิ่งตกใจไป เราหมายถึงการบริโภคเพียวคอลลาเจน (Pure Collagen) ที่ไม่ใส่สารปรุงแต่งใดใด ปราศจากน้ำตาลและรสชาติเพิ่มเติม จริงอยู่ว่าคอลลาเจนที่มีรสชาติผลไม้ปรุงแต่งอาจจะทานง่าย แต่การที่เราบริโภคเพียวคอลลาเจนทำให้ได้รับสารอาหารอย่างไม่สะดุด อีกทั้งหลีกเลี่ยงอาการแพ้ หรือสารตกค้างในร่างกายอีกด้วย
2.ทานคอลลาเจนพร้อมวิตามินอื่น ๆ
โดยเฉพาะวิตามินอย่าง วิตามินซี ที่ช่วยดูดซับคอลลาเจนให้ว่องไวยิ่งขึ้น สนับสนุนนำพาคอลลาเจนไปยังชั้นผิวอย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังแบ่งไปให้ส่วนอื่นของร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง นอกจากวิามินซี ก็ยังมีวิตามินอี วิตามินเอ กลูต้าไธโอน คิวเทน ที่สามารถทานควบคู่ส่งเสริมกันได้อีก
3.ตั้งนาฬิกา ทานให้ถูกเวลา
ทริคในการทานนั้นง่ายมากๆ ค่ะ คือการทานช่วงเวลาท้องว่างหรือก่อนนอนนั่นเอง สองช่วงที่กล่าวนั้นเป็นช่วงร่างกายบู๊ตส์ได้เป็นอย่างดี นำพาสารอาหารและประโยชน์ไปซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรออย่างรวดเร็ว
4.ทานให้ถูกประเภท
เพราะคอลลาเจนนั้นมีหลายไทป์ให้นักบริโภคได้เลือกทานอย่างหลากหลาย การเลือกทานให้ตรงจุดประสงค์ก็จะช่วยให้เห็นผลตามที่คุณต้องการนั่นเอง
5.ทานปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
ตามหลักยาสากลโลก ร่างกายควรได้รับคอลลาเจนอย่างน้อย 5,000 มิลลิกรัมต่อวันแต่ไม่ควรมากกว่า 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องด้วยภูมิร่างกายของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน
6.เลือกคอลลาเจนที่ไม่แพ้
หากคุณรู้ตัวว่าแพ้ไข่ ปลาและอาหารทะเล ควรหลีกเลี่ยงคอลลาเจนที่มีส่วนผสมเหล่า รับประทานคอลลาเจนที่ทำมาจากพืชหรือวีแกนคอลลาเจนซึ่งปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่าเยอะ
7.มี อย รับรอง
ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยค่ะ เราต้องได้รับการรับรองจาก อย เพื่อมั่นใจได้ว่าเราทานไปแล้วจะไม่ก่อเกิดอันตรายและมีคุณภาพรับประกันด้วย
แหล่งที่มา
- What Is the Best Form of Collagen to Take?. https://www.medicinenet.com/what_is_the_best_form_of_collagen_to_take/article.htm
- This Is the Absolute Best Way to Take Collagen, According to Experts. https://www.eatthis.com/best-effective-source-collagen/
- The Best Way to Take Collagen: Various Forms & Comparisons. https://cbsupplements.com/cc/best-way-to-take-collagen/
- The Nutrition Source : Collagen https://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/collagen/
เป็นยังไงบ้างคะ กับอันดับคอลลาเจน และข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ คอลลาเจนวัตสัน และข้อมูลคอลลาเจนที่เรานำมาเสนอให้ทุกคนได้ลองไปเลือกซื้อ เลือกรับประทานกัน หวังว่าจะมีแบรนด์ที่เตะตาและถูกใจกันบ้าง อย่าลืมว่าถ้าอยากกินให้ได้ผลก็ควรที่จะรับประทานให้ถูกวิธี และดูแลรักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจด้วย เพื่อที่ผิวของเราจะได้สวยใส และดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ