คอลลาเจนไดเปปไทด์ คืออะไร ? รู้ให้ลึกก่อนเลือกรับประทาน
คอลลาเจนไดเปปไทด์ คืออะไร? หลายคนที่กำลังมองหาคอลลาเจนสําหรับผู้สูงอายุยี่ห้อไหนดี หรือมองหาคอลลาเจนช่วยบำรุงผิวกินอยู่ อาจจะสงสัยในจุดนี้เพราะแต่ละแบรนด์นั้นก็ดึงจุดขายของประเภทของคอลลาเจนที่แตกต่างกันไปออกมา ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีอยู่ด้วยกันถึง 3 ประเภทเลยทีเดียว ‘ไดเปปไทด์’ ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่หลายคนนิยมเลือกกินกัน แต่จริง ๆ แล้วประโยชน์และสรรพคุณของมันช่วยในเรื่องอะไรกันแน่ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้คุณกัน
คอลลาเจนไดเปปไทด์ คืออะไร
Collagen Dipeptide เป็นคอลลาเจนที่มีโมเลกุลที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ทำให้ร่างสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนปกติทั่วไปซึ่งไม่ต้องผ่านการย่อยไปยังกระเพาะอาหาร จึงทำให้ถูกดูดซึมไปยังลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด และหากว่าร่างกายของเราสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีก็จะทำให้ร่างกายของเรามีผิวพรรณที่ดี เห็นผลได้ชัดเจนและไวกว่า
นอกจากคอลลาเจนไดเปปไทด์จะช่วยเรื่องผิวแล้ว ประโยชน์ของคอลลาเจนไดเปปไทด์ยังสามารถช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมในเรื่องของกระดูกข้อต่อได้เป็นอย่างดี คอลลาเจนสำคัญต่อร่างกายของเรามากมันสามารถช่วยบำรุงซ่อมแซมผิว ทำให้เรามีผิวที่ดีรวมไปถึงการมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย
ประโยชน์ของคอลลาเจนไดเปปไทด์
คอลลาเจนไดเปปไทด์นอกจากจะช่วยเรื่องผิวใส ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นแล้วยังสามารถฟื้นฟูบำรุงผิว ที่เกิดจากปัญหาผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย ผิวโทรมจากการนอนน้อย ให้กลับมามีออร่าขาวกระจ่างใสได้เป็นอย่างดี การทานคอลลาเจนไดเปปไทด์เห็นผลไวกว่าการทานคอลลาเจนปกติ ยิ่งถ้าร่างกายดูดซึมได้ดีก็จะยิ่งเห็นผลได้ไว ซึ่งนอกจากนี้คอลลาเจนไดเปปไทด์ไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วยเรื่องผิวเพียงอย่างเดียว ยังช่วยในเรื่องของกระดูกอ่อนและข้อต่อจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ ซึ่งคอลลาเจนไดเปปไทด์มีประโยชน์อีกมากมาย เมื่อร่างกายได้รับคอลลาเจนไดเปปไทด์เข้าไปดังต่อไปนี้
1.ช่วยบำรุงผิวพรรณ
ช่วยทำให้ผิวพรรณมีความกระจ่างใสขึ้นฟื้นฟูสภาพผิวที่เกิดจาก ผิวลอก ผิวแห้งกร้าน ผิวที่มีหมองคล้ำเกิดจากแสงแดดให้กลับมาดูผิวสวยได้เป็นอย่างดี และยังทำให้ดูอ่อนเยาว์ คอลลาเจนไดเปปไทด์ตอบโจทย์ในเรื่องของการดูแลผิวมาก ๆ
2.บำรุงเส้นผมและเล็บ
คอลลาเจนบำรุงเส้นผมและเล็บมีสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะนอกจากคอลลาเจนไดเปปไทด์จะเป็นตัวช่วยเรื่องผิวพรรณแล้ว ยังสามารถดูดซึมและดูแลส่วนต่างๆของร่างกายซึ่งทำให้เส้นผมไม่ขาดหลุดร่วงง่าย เพราะคอลลาเจนไดเปปไทด์สามารถบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงรวมไปถึงเล็บให้มีสุขภาพดี
3.ช่วยในเรื่องความแข็งแรงของกระดูก
คอลลาเจนไดเปปไทด์เมื่อร่างกายดูดซึมจากนั้นจะถูกนำไปใช้ดูแลส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี ทีสำคัญคอลลาเจนช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงได้ ป้องกันการเสื่อมของกระดูก ไม่ให้ปวดเมื่อยง่าย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายที่สุด
4.ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
เมื่อร่างกายได้รับคอลลาเจนไม่เพียงพอก็อาจจะเกิดปัญหาเรื่องผิวตามมา ซึ่งการทานคอลลาเจนไดเปปไทด์เป็นตัวช่วยที่ทำให้ลดปัญหาเรื่องความหมองคล้ำ ริ้วรอยที่เกิดจากผิว หรือผิวโทรมจากการนอนดึก ทำให้ผิวดูไม่เปร่งปลั่งเท่าที่ควร คอลลาเจนไดเปปไทด์เป็นตัวช่วยที่ลดปัญหาเรื่องผิวให้กลายเป็นผิวที่มีสุขภาพดี
5.ลดปัญหาการปวดเมื่อย
คอลลาเจนไดเปปไทด์สามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายและอาการปวดตามหัวเข่า บริเวณกระดูกข้อต่อส่วนต่างๆตามร่างกายได้ด้วย เพราะคอลลาเจนไดเปปไทด์สามารถบำรุงอาการปวดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าทานติดต่อกันลดอาการปวดไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
6.กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว
คอลลาเจนเมื่อร่างกายดูดซึมเข้าไปแล้วจะทำหน้าที่ดูแลบำรุงส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการที่คอลลาเจนช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้รอยสิวจางลง ทำใหไม่เกิดสิว และทำให้ผิวกระจ่างใส โดยรวมแล้วคอลลาเจนมีหน้าดูแลผิวให้แข็งแรง เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนในร่างกายจะค่อยๆลดลง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาได้เพราะฉะนั้นการทานคอลลาเจนก็สามารถทำให้ผิวหนังดีขึ้นได้
คอลลาเจนไดเปปไทด์ ต่างจาก เปปไทด์ และ ไตรเปปไทด์ยังไง
“คอลลาเจนไดเปปไทด์ (COLLAGEN DIPEPTIDE)” มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ เฉลี่ยเพียง 200 ดาลตัล แน่นอนว่าทำให้ไม่ต้องย่อยผ่านกระเพราะอาหาร แต่จะถูกดูดซึมผ่านลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด และยังสามารถเห็นผลได้รวดเร็วกว่า ส่วน “คอลลาเจนเปปไทด์ (COLLAGEN PEPTIDE)” มีโมเลกุลอยู่ที่ 2,000 ดาลตัน มีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่ที่สุด และ “คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (COLLAGEN TRIPEPTIDE)” มีโมเลกุลอยู่ที่ 1,500 ดาลตัน ซึ่งดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในระดับปานกลาง ไม่รวดเร็วเท่ากับคอลลาเจนไดเปปไทด์ที่มีโมเลกุลน้อยที่สุดเพียง 200 ดาลตันเท่านั้น
คอลลาเจนทั้ง 3 ชนิดนี้ มีความแตกต่างกันอยู่ที่ขนาดของโมเลกุลและประสิทธิภาพในการดูดซึม ซึ่งคุณสมบัติในส่วนอื่น ๆ คอลลาเจนทั้ง 3 ชนิดนี้ดูแลในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเรื่อง ผิวพรรณให้มีความชุ่มชื้น ผิวกระจ่างใส ปกป้องผิวหมองคล้ำจากแสงแดด ช่วยให้ผมไม่ขาดหลุดร่วง ทำให้เส้นผมแข็งแรง เงางามสุขภาพดี และยังช่วยให้เล็บไม่ฉีกง่าย
คอลลาเจนมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมาก รวมไปถึงช่วยลดอาการปวดเมื่อยสะสมอีกด้วย และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คอลลาเจนทั้ง 3 ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการดูแลส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามในการดูแลผิวนอกจากร่างกายจะได้รับคอลลาเจนแล้วก็จะต้องหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดคอลลาเจนเหล่านี้ เพราะแสงแดดมีส่วนทำลายผิวเป็นอย่างมาก ซึ่งจะทำให้ผิวหมองคล้ำ ผิวลอก ผิวแห้งกร้าน ซึ่งต้องดูแลและหลีกเลี่ยงเพื่อผิวพรรณที่ดีมีสุขภาพ
วิธีหลีกเลี่ยงการทำลายผิวถ้าไม่อยากให้คอลลาเจนลดลง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดรังสี UV แสงแดดเป็นตัวที่ทำลายผิวเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าไม่ดูแลผิวอาจจะทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาอย่างเช่น ผิวคล้ำเสีย ผิวแห้งกร้าน ผิวลอก ผิวไหม้ ซึ่งมันจะส่งผลเสียอย่างแน่นอน ถ้าหากว่าไม่หมั่นดูแลผิวอาจจะถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ จริง ๆ แล้วแสงแดดที่ดีต่อร่างกายจะเป็นแสงแดดช่วงเวลา 6-7 โมงเช้า แสงแดดอ่อนๆ จะช่วยกระตุ้นการสร้างวิตามิน D ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายมากๆ
- หลีกเลี่ยงการทานน้ำตาล หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าน้ำตาลส่งผลเสียสุขภาพมาก ๆ ถ้าหากร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป นอกจจากจะทำให้น้ำหนักขึ้นแล้ว ยังสามารถทำลายคอลลาเจนให้ลดลง เมื่อคอลลาเจนถูกทำลายก็จะทำให้เกิดปัญหาด้านผิวตามมา อาจทำให้ผิวมีริ้วรอยได้ง่าย ทางที่ดีควรควบคุมการทานน้ำตาลเพื่อสุขภาพที่ดี
- หลีกเลี่ยงการนอนดึก การนอนส่งผลต่อสุขภาพมาก ๆ ยิ่งถ้าหากว่านอนน้อย อดนอน จะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายและรวมไปถึงคอลลาเจนเสื่อมสภาพลงได้ สังเกตุมั้ยว่าหากนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ผิวหน้าดูไม่สดใส ดูโทรม ใต้ตาคล้ำ ซึ่งการนอนสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก หากอยากมีผิวพรรณที่ดีควรพักผ่อนให้เพียงพอ
ทำไมต้องเลือกคอลลาเจนไดเปปไทด์
คอลลาเจนไดเปปไทด์มีคุณสมบัติในการช่วยเรื่องผิวพรรณให้กระจ่างใส ชะลอริ้วรอย
ฟื้นฟูสภาพผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดด ทำให้ผิวไม่โทรม ซึ่งประโยชน์คอลลาเจนไดเปปไทด์ไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องผิวเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยเรื่องของกระดูกและข้อต่อ ช่วยสร้างเซลล์คอนโดไซด์ และกระบวนการย่อยคอลลาเจนไดเปปไทด์เมื่อทานไปแล้ว ดูดซึมง่ายมาก ไม่ต้องผ่านกระเพราะอาหาร แต่เข้าผ่านผิวหนัง ยิ่งหากว่ากินควบคู่กับวิตามินซีก็จะยิ่งทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด และนี่คือประโยชน์คอลลาเจนไดเปปไทด์ที่ทำไมถึงต้องเลือกคอลลาเจนตัวนี้
- ช่วยเรื่องกระดูกและข้อต่อ ทำให้การขยับตัวไม่เจ็บไม่ปวดกระดูก เพราะคอลลาเจนไดเปปไทด์มีส่วนช่วยบำรุงในเรื่องของกระดูกและข้อต่อ ช่วยให้หายปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อเข่า อาการปวดสะสม เมื่อทานคอลลาเจนไดเปปไทด์ก็จะสามารถบรรเทาอาการปวดลงได้
- ช่วยเรื่องผิวพรรณ ขึ้นชื่อคอลลาเจนคุณสมบัติคือการบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ลดรอยสิวให้จางลง ผิวมีความชุ้มชื้น ซึ่งปัญหาผิวที่มีความหมองคล้ำจากแสงแดด ผิวแห้งกร้าน ผิวลอก จะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนและการทานคอลลาเจนไดเปปไทด์เป็นตัวฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาดูดีได้อย่างแน่นอน
- ช่วยในเรื่องเล็บ ผม และการทำงานเซลล์ การทานคอลลาเจนไดเปปไทด์ร่างกายจะดูดซึมและบำรุงส่วนต่างๆในร่างกาย ทำให้เล็บไม่ฉีกง่าย ผมสุขภาพดีไม่ขาดหลุดร่วง และอีกทั้งยังทำให้การทำงานในร่างกายมีความสมดุล
วิธีกินคอลลาเจนไดเปปไทด์ให้ได้ผล
การทานคอลลาเจนจริง ๆ แล้วสามารถทานได้ทุกเวลาตามที่ต้องการจะทานกับเครื่องดื่มที่ชอบหรือน้ำเปล่าก็ได้ แต่ถ้าอยากให้คอลลาเจนเห็นผลลัพธ์ที่ไวก็ควรเลือกทานคอลลาเจนตอนท้องว่าง เพราะระบบการทำงานในร่างกายจะดูดซึมคอลลาเจนได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าการทานคอลลาเจนหลังอาหารจะไม่เกิดผลลัพธ์ เพียงแต่ว่าการทำงานในร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่าเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามต้องดูแลร่างกายให้มีสุขภาพที่ดีด้วย เช่นหลีกเลี่ยงแสงแดด นอนหลับพักผ่อน ให้เพียงพอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ทานน้ำตาลมากเกินไป เพื่อประสิทธิภาพในการทานคอลลาเจน และที่สำคัญทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพียงแค่นี้ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน
กินคอลลาเจนอย่างไรให้เห็นผล
- กินคอลลาเจนควบคู่วิตามิน C นอกจากคอลลาเจนจะมีประโยชน์อยู่แล้ว แต่ถ้าหากทานคอลลาเจนควบคู่กับวิตามิน C จะยิ่งช่วยให้มีประสิทธิภาพการทำงานเข้าไปอีก เพราะวิตามิน C เป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพคอลลาเจน และทำให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดีอีกด้วย
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ น้ำสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ควรดื่มน้ำ 8 แก้ว/วัน ยิ่งเราดื่มน้ำมากในปริมาณที่พอดีจะทำให้การดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดื่มน้ำก็สามารถทำให้เรามีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ร่างกายเราไม่ควรขาดน้ำ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งตามมาได้
- หลีกเลี่ยงป้องกันแสงแดด นอกจากการทานคอลลาเจนแล้วถ้าอยากให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีควรหลีกเลี่ยงแสงแดด นอนให้เพียงพอ และไม่ควรทานน้ำตาลมากเกินไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวทำให้เกิดปัญหาผิว และอาจจะทำให้การทานคอลลาเจนไม่เห็นผลก็ได้
- กินคอลลาเจนสม่ำเสมอ การทานคอลลาเจนต้องอาศัยเวลาและการดูแลตัวเองร่วมด้วย ถ้าหากอยากให้เห็นผลลัพธ์ก็ต้องทานคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรทานไปหยุดไป เพราะอาจจะทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์
- คอลลาเจนแบบผงกับแบบเม็ด แน่นอนว่าคอลลาเจนแบบผงที่ชงดื่มจะดีกว่าแบบเม็ด
เพราะคอลลาเจนแบบผงโมเลกุลเล็กกว่า ละลายในน้ำแล้วดื่มเลย ร่างกายจะดูดซึมคอลลาเจนแบบผงได้ดีกว่าแบบเม็ดนั่นเอง
ทีนี้คุณก็พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมล่ะว่าคอลลาเจนไดเปปไทด์คืออะไร ซึ่งจะเห็นได้เลยว่ามันมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมากทั้งช่วยบำรุงด้านผิวพรรณและตามข้อต่อกระดูกต่าง ๆ ที่สำคัญยังเป็นคอลลาเจนประเภทที่มีโมเลกุลเล็กมากที่สุดอีกด้วย ตอนนี้คุณก็คงรู้ถึงความแตกต่างของคอลลาเจนทั้ง 3 ประเภทแล้ว ฉะนั้นแล้วก็สามารถเลือกรูปแบบการกินให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้เลยและอย่าลืมกินให้ถูกวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อร่างกายด้วยนะคะ
แหล่งที่มา :
- คอลลาเจน คืออะไร ? กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์. https://www.nestle.co.th/th/nhw/3e/eat/eating-tips-to-boost-collagen-production
- ทำไมต้องคอลลาเจนไดเปปไทด์?. https://tepprathanpornpharmacy.com/adjustable-breast-implants-a-boon-for-busts/
- คอลลาเจน Tripeptide, Dipeptide, Peptide ต่างกันอย่างไร. https://www.madamefigarothai.com/คอลลาเจน-tri-di-peptide
- ประเภทของคอลลาเจน. https://www.fordays.co.th/r-and-d/collagen.html