คอลลาเจน Type I และ III แตกต่างกันอย่าไร ? เรียนรู้เรื่องคอลลาเจน

คอลลาเจน Type I และ III แตกต่างกันอย่าไร ?

Table of Contents

คอลลาเจน Type I และ III แตกต่างกันอย่างไร ? เพราะคอลลาเจนจะมีประเภทให้เลือกใช้งานอยู่มากมาย แต่ละประเภทล้วนแตกต่างกันออกไปในเรื่องของประสิทธิภาพ ดังนั้นในส่วนนี้หากใครต้องการเลือกรับประทานคอลลาเจน จำเป็นต้องเลือกประเภทคอลลาเจนให้ดีเสียก่อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่คอลลาเจนให้มากที่สุด สำหรับบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ อะไรคือความแตกต่างของคอลลาเจน Type I & III รู้จักกับคอลลาเจน, คอลลาเจน Type I และ Type III แตกต่างกันอย่างไร?, อยากผิวสวย ต้องเลือกกินคอลลาเจนประเภทไหน? และไขข้อสงสัย เราจะเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายได้อย่างไรบ้าง


อะไรคือความแตกต่างของคอลลาเจน Type I & III รู้จักกับคอลลาเจน

อะไรคือความแตกต่างของคอลลาเจน Type I & III รู้จักกับคอลลาเจน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องสงสัยกันอย่างแน่นอนว่า อะไรคือความแตกต่างของคอลลาเจน Type I & III และความจริงแล้วคอลลาเจนคืออะไร ซึ่งคอลลาเจนจะถือเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบหลัก ๆ ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ผิวหนัง ขน เส้นผม เส้นเอ็น และกระดูกอ่อน เป็นต้น โดยปกติแล้วร่างกายของเราจะสามารถพบคอลลาเจนได้ประมาณ 25-35% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย

หน้าที่หลัก ๆ ของคอลลาเจนคือช่วยให้ผิวพรรณของเรามีความยืดหยุ่น และเต่งตึงได้มากกว่าเดิม ในด้านของกระดูก ข้อต่อ หรือเส้นเอ็นต่าง ๆ คอลลาเจนจะเข้าไปช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และเพิ่มความแข็งแรงให้แก่กระดูกและข้อได้มากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งยังมีหน้าที่ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บต่ออวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายชั้นลึกลงไปได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นจะเห็นได้เลยว่า คอลลาเจนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก

และอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าร่างกายของเราจะมีประสิทธิภาพในการผลิตคอลลาเจนเองได้ แต่เมื่อไหร่ที่เรามีอายุเพิ่มมากขึ้น อัตราการผลิตคอลลาเจนในร่างกายของเราจะลดลงด้วยเช่นกัน หากใครที่มีอายุใกล้ 30 ต้น ๆ อัตราการผลิตคอลลาเจนของเราจะค่อย ๆ ลดลง และจะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อเรามีอายุย่างเข้าเลข 4 ดังนั้นหากใครที่เริ่มมีอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว จำเป็นต้องรับประทานคอลลาเจนเสริมเข้าไป เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิวหนัง และมวลกระดูกในร่างกายของเราได้มากที่สุด


คอลลาเจน Type I และ Type III แตกต่างกันอย่างไร?

คอลลาเจน Type I และ Type III แตกต่างกันอย่างไร?

หากเราต้องการรับประทานคอลลาเจน นอกจากจะต้องศึกษาเรื่องคอลลาเจนช่วยอะไรแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม คือ ประเภทของคอลลาเจนแต่ละชนิด เนื่องจากคอลลาเจนจะมีประเภทต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป คอลลาเจนแต่ละประเภทจะมีส่วนช่วย หรือมีประสิทธิภาพในการทำงานได้แตกต่างกัน ซึ่งโดยปกติแล้วคอลลาเจนจะถือเป็นโปรตีน ที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่ต่อกันเป็นเส้นใยยาว ๆ มีหน้าที่เป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น กล้ามเนื้อ กระดูก ผิวหนัง เล็บ ผม เส้นเอ็น และอื่น ๆ ปกติแล้วร่างกายของเราจะสามารถผลิตคอลลาเจนขึ้นมาเองได้ และคอลลาเจนที่สามารถพบได้ในร่างกายของเรามากที่สุด คือ

  • คอลลาเจนชนิดที่ 1: หรือ Collagen Type I ที่จะเป็นคอลลาเจนประเภทที่เราสามารถพบได้มากที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่สำคัญในการสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด เส้นเอ็น เอ็น ยึดกล้ามเนื้อ ผิวหนัง กระจกตา และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่าง ๆ ดังนั้นคอลลาเจนประเภทนี้จะมีความแข็งแรงมากที่สุด
  • คอลลาเจนชนิดที่ 2: หรือ Collagen Type II จะเป็นคอลลาเจนประเภทที่สามารถพบได้มากที่สุดในกระดูกอ่อน และกระดูกข้อต่อต่าง ๆ
  • คอลลาเจนชนิดที่ 3: หรือ Collagen Type III จะเป็นคอลลาเจนที่สามารถพบรวมอยู่กับคอลลาเจนชนิดที่ 1 แต่จะพบได้เพียงแค่ 10% เท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วคอลลาเจนประเภทนี้จะพบได้ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน และหลอดเลือดแดง เป็นต้น

อยากผิวสวย ต้องเลือกกินคอลลาเจนประเภทไหน?

อยากผิวสวย ต้องเลือกกินคอลลาเจนประเภทไหน?

หากใครต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ผิว รวมทั้งช่วยในเรื่องลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ควรเลือกรับประทานคอลลาเจนชนิดที่ 1 มากกว่าคอลลาเจน type 2 หรือชนิดที่ 3 เนื่องจากคอลลาเจนชนิดนี้จะสามารถพบได้ในผิวกว่า 90% อีกทั้งยังสามารถพบได้ในหลอดเลือด และเส้นเอ็นอีกด้วย และนอกจากนี้คอลลาเจนชนิดที่ 1 ยังเป็นชนิดที่เราสามารถพบได้มากที่สุดในร่างกายของเรา มีความสำคัญในเรื่องช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันเนื้อเยื่อภายในร่างกายไม่ให้ฉีกขาดได้ง่าย และยังมีส่วนช่วยสมานแผลบนผิวหนังของเราได้เป็นอย่างดี

และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นเหตุผลที่คนอยากผิวสวยหน้าใส ไร้ริ้วรอย จำเป็นต้องรับประทานคอลลาเจนชนิดที่ 1 ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และนอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ของทางการแพทย์ ที่ได้รับพัฒนาให้มีความก้าวไกลมากขึ้นกว่าเดิม ได้มีการศึกษาวิจัยคอลลาเจนผ่านกระบวนการผลิตในรูปแบบพิเศษที่เรียกว่า Bioactive collagen peptide (BCP) ซึ่งจะเป็นประเภทของคอลลาเจนที่มีการวิจัยสำหรับผิวโดยเฉพาะ ดังนั้นเราสามารถเลือกใช้งานได้เช่นเดียวกัน


ไขข้อสงสัย เราจะเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายได้อย่างไรบ้าง

ไขข้อสงสัย เราจะเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายได้อย่างไรบ้าง

เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องคุ้นเคยกับคอลลาเจนกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เนื่องจากในปัจจุบันการรับประทานคอลลาเจนจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ทั้งกระดูก ข้อต่อ และระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ทั้งนี้ยังมีคอลลาเจนสำหรับผิวหนัง ที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยชะลอริ้วรอย และยังเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิวหนังของเราได้อีกด้วย ซึ่งจะเรียกได้ว่าคอลลาเจนเปปไทด์ ช่วยอะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด แต่ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่นิยมรับประทานคอลลาเจนเพื่อบำรุงผิวหนังกันมากขึ้นกว่าเดิม

โดยคอลลาเจนช่วยบำรุงผิวหนังนั้น จะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 1 ที่จะช่วยพยุงโครงสร้างของผิวหนังเราได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยซ่อมแซมผิวหนังเวลาเกิดบาดแผลต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น อัตราการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังของเราจะลดลง จึงทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยได้ง่าย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเสริมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อช่วยให้ร่างกายมีปริมาณคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของวิธีการเสริมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายนั้น อ้างอิงจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จะมีวิธีเสริมคอลลาเจนหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

  • ทาคอลลาเจน: การทาคอลลาเจนจะพบว่าทำให้ผิวหนังของเราชุ่มชื้นมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากคอลลาเจนสามารถเคลือบผิวหนังได้ แต่ด้วยความที่คอลลาเจนมีขนาดของโมเลกุลใหม่มาก จึงไม่สามารถซึมเข้าไปถึงผิวหนังชั้นในได้ ดังนั้นการทาคอลลาเจนอาจจะไม่สามารถแก้ไขความหย่อนคล้อยได้นั่นเอง
  • ฉีดคอลลาเจน: ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีเสริมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน แต่ในสมัยก่อนนิยมใช้คอลลาเจนที่สังเคราะห์จากสัตว์ แต่พบว่าคนส่วนใหญ่จะมีอัตราการแพ้ที่สูงมาก ในปัจจุบันจึงนิยมฉีดสารเติมเต็ม (Filler) กลุ่มไฮยาลูโรนิค แอซิดมากกว่า ที่มีโอกาสแพ้ได้น้อยกว่า แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องผิวหนังหย่อนคล้อยได้เหมือนกับคอลลาเจน
  • รับประทานคอลลาเจน: ถือเป็นการเสริมคอลลาเจนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้วจะสังเคราะห์มาจากแหล่งอาหารที่มีคอลลาเจนสูง อย่างเช่น หนังสัตว์ เอ็น เยลลี่ เจลาติน เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้ว คอลลาเจนจะมีโมเลกุลขนาดใหญ่ ดังนั้นจะถูกย่อยในทางเดินอาหารไปบ้าง แต่หากเราเลือกประเภทคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็กลง และรับประทานควบคู่กับวิตามินซี จะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการดูดซึมได้ดีกว่า

เลือกรับประทานคอลลาเจนให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ด้วยความที่ในปัจจุบันจะมีคอลลาเจนให้เลือกรับประทานหลากหลายประเภทด้วยกัน แต่ละประเภทจะมีประสิทธิภาพการทำงานที่แตกต่างกันออกไป บางประเภทจะช่วยเรื่องบำรุงผิวพรรณ แต่บางประเภทอาจจะช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก ดังนั้นในส่วนนี้ทุกคนจำเป็นต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน เพื่อเลือกรับประทานคอลลาเจนอย่างถูกต้อง


อ้างอิง :

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประโยชน์ของเจลาติน มีอะไรบ้าง ครอบคลุมส่วนไหน
สาระความรู้
ประโยชน์ของเจลาติน มีอะไรบ้าง ครอบคลุมส่วนไหน

เคยสงสัยไหมว่า เวลาพูดถึงคอลลาเจน ทำไมมีเจลาตินเข้ามาเป็นหนึ่งในหัวข้อสนทนา แล้วแท้จริง ประโยชน์ของเจลาติน นั้นมีอะไรบ้าง? ไปหาคำตอบด้วยกัน

อ่านต่อ
เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?
สาระความรู้
เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?

เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร ตั้งแต่กระบวนการผลิต จุดประสงค์ในการใช้งาน คุณสมบัติ ไปจนถึงแคลอรี ควรเลือกแบบไหนดี?

อ่านต่อ
เจลาตินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร หาได้จากที่ไหน
สาระความรู้
เจลาตินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร หาได้จากที่ไหน

เจลาตินคืออะไร ? คำตอบคือ โปรตีนที่ได้จากการสลายตัวของคอลลาเจน (ปรุงสุก) มีลักษณะหนืดคล้ายเจลหรือเยลลี่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดี

อ่านต่อ
3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง ช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องรู้
สาระความรู้
3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง ช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องรู้

3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง วิธีการรับมือกับช่วงวัยที่ใกล้หมดประจำเดือน จะมีอะไรที่คุณควรรู้บ้างนั้น เรารวบรวมมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ
เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก
สาระความรู้
เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก ดูแลผิวอย่างไร ถ้าไม่อยากให้แก่ไว 

เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก ถ้าไม่อยากให้แก่ไว คือ ทาครีมกันแดด นอนหลับอย่างมีคุณภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเสริมด้วยเคล็ดลับบำรุงผิว

อ่านต่อ
อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง
สาระความรู้
15 อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง พร้อมเทคนิคฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน

15 อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง อุดมไปด้วยโปรตีน โอเมก้า 3 วิตามินบี 7 และวิตามินเอ พร้อมเทคนิคฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน สำหรับคนผิวแห้ง

อ่านต่อ