คอลลาเจน Type I และ Type II แตกต่างกันอย่างไร ?

คอลลาเจน Type I และ Type II แตกต่างกันอย่างไร ?

Table of Contents

คอลลาเจน Type I และ Type II เป็นคอลลาเจน 2 รูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ คอลลาเจน Type I เป็นคอลลาเจนไฟบริลลาร์ ที่มีการสร้างเส้นใยยาวและหนา สามารถพบได้ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่าง ๆ เช่น ผิวหนัง เส้นเอ็น กระดูก ส่วนคอลลาเจน Type II เป็นคอลลาเจนที่ก่อตัวเป็นเครือข่ายคล้ายตาข่าย ส่วนใหญ่พบในกระดูกอ่อน

คอลลาเจน Type I ทำหน้าที่ให้ความสมบูรณ์แก่โครงสร้าง และให้ความแข็งแรงแก่เนื้อเยื่อ และมีหน้าที่ในการต้านแรงดึงของเนื้อเยื่อและมีบทบาทสำคัญในการรักษาบาดแผล ความแข็งแรงของกระดูก และรักษาความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ ส่วนคอลลาเจน Type II พบได้เฉพาะในกระดูกอ่อน และมีบทบาทสำคัญในการรักษาโครงสร้างและการทำงานของเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน ซึ่งรองรับและปกป้องข้อต่อ

บทความนี้คุณจะได้ศึกษาความแตกต่างของคอลลาเจนทั้งสองชนิดแบบเจาะลึก โดยเราได้รวบรวมหัวข้อได้แก่ความแตกต่างของคอลลาเจน Type I & II ที่คนรักสุขภาพ ต้องรู้จัก, คอลลาเจนชนิดที่ 1 คืออะไร?, คอลลาเจนชนิดที่ 2 คืออะไร?, คอลลาเจน Type I & Type II แตกต่างกันอย่างไร?, คอลลาเจนที่ผ่านการไฮโดรไลซ์ vs คอลลาเจนที่ไม่ผ่านกรรมวิธีไฮโดรไลซ์, คอลลาเจนประเภทไหนช่วยบำรุงกระดูกและข้อเข่าได้ดี และเรื่องน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคอลลาเจน


ความแตกต่างของ คอลลาเจน Type I และ II ที่คนรักสุขภาพ ต้องรู้จัก

ความแตกต่างของ คอลลาเจน Type I และ II ที่คนรักสุขภาพ ต้องรู้จัก

คอลลาเจน เป็นโปรตีนเส้นใยที่พบได้ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ผิวหนัง กระดูก และส่วนอื่น ๆ ให้ความแข็งแรงและความกระชับแก่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คอลลาเจนมีโครงสร้างที่ซับซ้อน ประกอบด้วยสายโพลีเปปไทด์แบบเกลียวสามสาย โปรตีนคอลลาเจนที่พบในร่างกายมนุษย์และสัตว์มีหลายประเภท แต่ในร่างกายมนุษย์คอลลาเจนประเภทที่ 1, 3, และ 2 มีจำนวนมากที่สุด คอลลาเจนประเภทที่ 1 เป็นคอลลาเจนที่มีมากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พบในผิวหนัง เส้นเอ็น เอ็นและกระดูก ประเภทที่ 2 เป็นคอลลาเจนประเภทที่มีมากที่สุดในกระดูกอ่อน


คอลลาเจนชนิดที่ 1 คืออะไร?

คอลลาเจนประเภทที่ 1 เป็นคอลลาเจนที่พบมากที่สุดในร่างกาย คิดเป็นประมาณ 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย พบได้ทั่วไปในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ผิวหนัง เส้นเอ็น เส้นเอ็นของหลอดเลือด อวัยวะต่าง ๆ กระดูก เป็นต้น จัดเป็นคอลลาเจนชนิดแรกที่มีลักษณะเฉพาะ เนื่องจากมีจำนวนมากในเมทริกซ์นอกเซลล์และแยกตัวได้ง่าย มีจำนวนกรดอะมิโน 1,050 ตัว


คอลลาเจนชนิดที่ 2 คืออะไร?

คอลลาเจนประเภทที่ 2 เป็นองค์ประกอบหลักของเมทริกซ์นอกเซลล์ของกระดูกอ่อน คิดเป็น 50% ของโปรตีนกระดูกอ่อน คอลลาเจนชนิดที่ 2 มีอยู่ในเมทริกซ์กระดูกอ่อนที่เชื่อมขวางกับโปรตีโอไกลแคน คอลลาเจน 2 ยังพบในหมอนรองกระดูกสันหลัง หูชั้นใน และน้ำวุ้นตา คอลลาเจน 2 ประกอบด้วยโซ่โปรอัลฟ่า 1 จำนวน 3 สาย การสังเคราะห์คอลลาเจนประเภทที่ 2 จะลดลงตามอายุ และนำมาผลิตเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่ดีข้อต่อและกระดูกอ่อนในช่องปาก


คอลลาเจน Type I & Type II แตกต่างกันอย่างไร?

คอลลาเจน Type I & Type II แตกต่างกันอย่างไร?

 

คอลลาเจนประเภทที่ 1 เป็นคอลลาเจนชนิดที่มีมากที่สุด คอลลาเจนประเภทที่ 2 เป็นคอลลาเจนชนิดที่มีมากเป็นอันดับ 3 ในร่างกาย
มีมากในผิวหนัง เส้นเอ็น เส้นเอ็นของหลอดเลือด อวัยวะ และกระดูก มีมากที่สุดในกระดูกอ่อน
สามารถผสมกับคอลลาเจนชนิดที่ 3 และจัดเป็นอาหารเสริมสำหรับบำรุงผิวหนัง กล้ามเนื้อ และกระดูก อาหารเสริมเพื่อสุขภาพข้อต่อและกระดูกอ่อน

 คอลลาเจนชนิดที่ 1 เทียบกับชนิดที่ 2 คอลลาเจน จัดเป็นโปรตีนโครงสร้างที่มีมากที่สุดในร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 25% ของโปรตีนทั้งหมด เป็นโปรตีนเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำซึ่งให้ความยืดหยุ่นและความแข็งแรงแก่ผิวหนัง เล็บ กล้ามเนื้อ ข้อต่อ และกระดูกของร่างกาย คอลลาเจนมีอยู่ใน 16 ประเภทที่แตกต่างกัน และประเภทที่มีมากที่สุดคือประเภท 1, 2 และ 3 คอลลาเจน 3 เกลียวประกอบด้วยสายโพลีเปปไทด์ 3 สายที่เรียงลำดับด้วยกรดอะมิโน Gly-X-Y คอลลาเจนประเภทที่ 1 เป็นชนิดที่มีมากที่สุดในร่างกายและพบได้ในผิวหนัง เส้นเอ็น เส้นเอ็นของหลอดเลือด อวัยวะ และกระดูก คอลลาเจนประเภทที่ 2 เป็นคอลลาเจนหลักในกระดูกอ่อน


คอลลาเจนที่ผ่านการไฮโดรไลซ์ vs คอลลาเจนที่ไม่ผ่านกรรมวิธีไฮโดรไลซ์

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  • ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (เรียกอีกอย่างว่าคอลลาเจนเปปไทด์ หรือคอลลาเจนไฮโดรไลเสต) คอลลาเจนประเภทนี้ร่างกายจะดูดซึมและนำไปใช้ได้ง่ายกว่า มักอยู่ในรูปแบบผงและละลายได้ในของเหลว เช่น สมูทตี้และกาแฟ คุณภาพของไฮโดรไลซ์คอลลาเจนส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวิธีการผลิต
  • คอลลาเจนที่ไม่ผ่านการตัดแต่ง (UC-II) คอลลาเจนที่ไม่ผ่านการตัดแต่ง ไม่ได้ถูกสลายหรือสัมผัสกับความร้อน กรด และเอ็นไซม์ มักจะได้มาจากกระดูกอ่อนอกไก่ ในขณะที่ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนอาจมาจากสัตว์หลายชนิด เช่น หนังสัตว์ กีบเท้า กระดูกและเกล็ดจากวัว หมู หรือปลา

อ้าอิงจากข้อมูลของ โรงพยาบาลเฉพาะทางกระดูกและข้อ ข้อดีมีสุข หรือ kdms hospital ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า คอลลาเจน  เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย รวมทั้งกระดูกอ่อนผิวข้อด้วย ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรง ให้ความยืดหยุ่นแก่ร่างกาย เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นความเต่งตึงก็จะลดลง ส่งผลทำให้กระดูกอ่อนผิวข้อเสื่อมลงตามเวลา ไม่แข็งแรงเหมือนตอนหนุ่มสาว ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจน จะช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนเพิ่มขึ้น

และคอลลาเจนที่นิยมทานเพื่อบำรุงกระดูกอ่อนผิวข้อและข้อต่อ คือ คอลลาเจน type 2 สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Collagen hydrolysate และ Undenatured collagen เพราะ type 2 พบได้มากในกระดูกอ่อนผิวข้อ ช่วยกระตุ้นร่างกายทำให้สังเคราะห์เซลล์ใหม่ขึ้นมา และทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และยังเพิ่มระดับน้ำไขข้ออีกด้วย


คอลลาเจนประเภทไหนช่วยบำรุงกระดูกและข้อเข่าได้ดี

คอลลาเจนประเภทไหนช่วยบำรุงกระดูกและข้อเข่าได้ดี

คอลลาเจน Type II มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบำรุงกระดูกและข้อเข่า เป็นคอลลาเจนชนิดหลักที่พบในกระดูกอ่อน รวมถึงกระดูกอ่อนตามข้อที่หุ้มปลายกระดูกในข้อต่อ กระดูกอ่อนผิวข้อทำหน้าที่เป็นเบาะทำให้การเคลื่อนไหวราบรื่น และลดการเสียดสีระหว่างกระดูก

การเสริมคอลลาเจน Type II ช่วยในการสนับสนุนสุขภาพของข้อต่อ และช่วยบรรเทาสภาวะเช่นโรคข้อเข่าเสื่อม ส่งเสริมการผลิตโปรตีโอไกลแคนและไกลโคซามิโนไกลแคน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกอ่อน ที่ช่วยรักษาโครงสร้าง ความยืดหยุ่น และความสามารถในการดูดซับแรงกระแทก

ถ้าคุณต้องการกินอาหารเสริมคอลลาเจนเพื่อบำรุงสุขภาพกระดูกและข้อ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกแหล่งคอลลาเจน Type II คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับข้อต่อโดยเฉพาะ อาหารเสริมเหล่านี้มักได้มาจากกระดูกอกไก่ หรือกระดูกอ่อนของปลา และผ่านกรรมวิธีเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของคอลลาเจน Type II


เรื่องน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคอลลาเจน

คุณสามารถเสริมคอลลาเจนได้จากการทานอาหาร เรามีข้อควรรู้มาแนะนำเพิ่มเติมกัน

  • คอลลาเจน ได้มาจากสัตว์เสมอ
  • ปริมาณคอลลาเจนที่ดีที่สุด แนะนำให้คุณรับประทาน UC-II ประมาณ 40 มก. ต่อวัน ส่วนการทานไฮโดรไลซ์คอลลาเจน แนะนำ 2.5 – 15 กรัมต่อวัน
  • น้ำซุปเคี่ยวกระดูกและเจลาติน ได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งคอลลาเจนที่ดี เช่นน้ำซุปโครงไก่ต้มกับผักเปื่อย ๆ หรือน้ำซุปกระดูกหมูต้มกับผักนิ่ม ๆ เป็นต้น

และนี่ก็คือความสำคัญของการมีคอลลาเจนอยู่ในร่างกายของเรา นอกเหนือไปจากความเต่งตึง ความสวยงามของผิวกายผิวหน้าแล้วในขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของข้อต่อก็มีความสำคัญ เพราะว่าการมีข้อต่อที่ดี จะทำให้ร่างกายของคุณกระฉับกระเฉงไม่ปวดข้อ เคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก มั่นใจ มีความสุข แต่การปวดข้อนั้นทำให้หลาย ๆ คนนั้น ตกอยู่ในภาวะความเศร้าหรือความเหนื่อยล้ามากขึ้นเลยทีเดียว ดังนั้นการเลือกอาหารเสริมคอลลาเจน ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ดี ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายให้ยังคงอยู่ในระดับที่ดี


อ้างอิง :

บทความที่เกี่ยวข้อง

อาหารเสริมวิตามินผิว
สาระความรู้
อาหารเสริมวิตามินผิว มีอะไรบ้าง ? เปิดสาเหตุเพิ่มวิตามินให้ผิว ดีอย่างไร

เพิ่ม อาหารเสริมวิตามินผิว เสริมได้ด้วยวิตามินซี นอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใสได้มากกว่าเดิม

อ่านต่อ
เครื่องดื่มคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี ? มาเพิ่มคอลลาเจนง่าย ๆ กัน

มองหา เครื่องดื่มคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี มาดูกัน ตัวช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้มากกว่าเดิม พร้อมเพิ่มความกระชับ เต่งตึงให้ผิว

อ่านต่อ
โรคข้อเสื่อมรักษาอย่างไร แบบไม่ผ่าตัด
สาระความรู้
โรคข้อเสื่อมรักษาอย่างไร แบบไม่ผ่าตัด

โรคข้อเสื่อมรักษาอย่างไร แบบไม่ผ่าตัด ทำง่าย เห็นผลจริง เพียงแค่เปลี่ยนแปลงบางพฤติกรรมที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดข้อเสื่อม

อ่านต่อ
คอลลาเจน Type II และ III แตกต่างกันอย่างไร
สาระความรู้
คอลลาเจน Type II และ III แตกต่างกันอย่างไร ? เลือกกินอย่างไรดี

คอลลาเจนแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร อะไรคือความแตกต่างของ คอลลาเจน Type II และ III เพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและผิวหนังได้ง่าย ๆ

อ่านต่อ
วิธีดูแลตัวเอง เมื่อเป็นโรคข้อเสื่อม
สาระความรู้
วิธีดูแลตัวเอง เมื่อเป็นโรคข้อเสื่อม

วิธีดูแลตัวเอง เมื่อเป็นโรคข้อเสื่อม ยิ่งดูแลตัวเองดี ยิ่งหายได้ง่าย และเร็วขึ้น วิธีการดูแลร่างกายตัวเอง และพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

อ่านต่อ