คอลลาเจน Type II คืออะไร?

คอลลาเจน Type II

Table of Contents

คอลลาเจน Type II คืออะไร? คือ โปรตีนคอลลาเจนที่พบมากในกระดูกอ่อน จัดอยู่ในกลุ่มของโปรตีนคอลลาเจนที่เรียกว่าไฟบริลลาร์คอลลาเจน ที่ทำหน้าช่วยพยุงโครงสร้าง และเสริมความแข็งแรงของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย คอลลาเจนประเภทนี้เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบได้ในกระดูกอ่อน ผิว และข้อ เป็นเนื้อเยื่อที่มีความเรียบและยืดหยุ่น มีการสร้างเครือข่ายคล้ายตาข่ายภายในกระดูกอ่อน ให้ความยืดหยุ่นและดูดซับแรงกระแทกระหว่างการเคลื่อนไหวของข้อต่อ

นอกจากจะมีอยู่ในกระดูกอ่อนตามข้อแล้ว คอลลาเจนชนิดที่ 2 ยังอยู่ในโครงสร้างกระดูกอ่อนอื่น ๆ เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังในกระดูกสันหลัง (หมอนรองกระดูกสันหลัง) และกระดูกอ่อนในกระดูกซี่โครง (กระดูกอ่อนซี่โครง) ช่วยรักษาโครงสร้างและการทำงานของเนื้อเยื่อเหล่านี้อีกด้วย

ภายในบทความนี่คุณจะได้เรียนรู้แล้วทำความรู้จักคอลลาเจนประเภทนี้ให้มากขึ้นตั้งแต่คอลลาเจน Type II คืออะไร? ทำความรู้จักกันก่อน, คอลลาเจนชนิดที่ 2 นิยมทานเพื่อแก้ปัญหาปวดข้อ, กินแล้วช่วยอะไร?, อัตราการเสื่อมของคอลลาเจนในแต่ละช่วงวัย, เสริมความรู้เรื่องอัตราการเสื่อมของคอลลาเจน และแหล่งคอลลาเจนชนิด 2 ที่พบได้ในอาหาร


คอลลาเจน Type II คืออะไร? ทำความรู้จักกันก่อน

คอลลาเจน Type II คืออะไร? ทำความรู้จักกันก่อน

คอลลาเจนชนิดที่ 2 ประกอบด้วยสายโพลีเปปไทด์ 3 สายหรือที่เรียกว่าสายอัลฟ่า ซึ่งก่อตัวเป็นโครงสร้างเกลียว 3 ชั้น สายโซ่เหล่านี้ประกอบด้วยกรดอะมิโน ที่ให้คุณสมบัติและหน้าที่เฉพาะของคอลลาเจนประเภท II และจากความสำคัญที่มีต่อสุขภาพของกระดูกอ่อน คอลลาเจนชนิดที่ 2 จึงได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง เพื่อนำมาใช้ในการประยุกต์ใช้ในการรักษาโรค

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใช้ในการสนับสนุนสุขภาพของข้อต่อและช่วยลดอาการต่าง ๆ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โดยมักใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น คอลลาเจนเปปไทด์ หรือคอลลาเจนไฮโดรไลเสต เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และทำให้เกิดความคล่องตัวของข้อต่อ สิ่งสำคัญคือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนประเภท II มักจะมาจากสัตว์ เช่น กระดูกอ่อนของไก่หรือวัว


คอลลาเจนชนิดที่ 2 นิยมทานเพื่อแก้ปัญหาปวดข้อ

คอลลาเจนประเภทที่ 2 จัดเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในกระดูกอ่อน และทำให้โครงสร้างในส่วนนี้สามารถยืดได้ มีความแข็งแรง และยืดหยุ่นได้ โปรตีนสายยาวเหล่านี้ประกอบกันเป็นข้อต่อ เส้นเอ็น ผิวหนัง กระดูกและกระดูกอ่อน อีกทั้งยังช่วยลดการตอบสนองภูมิต้านทานผิดปกติในร่างกายของคุณ โดยทำหน้าที่ต้านการอักเสบเพื่อลดอาการปวด ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจาก โรคข้อเข่าเสื่อม โรคไขข้อ ปวดข้อหลังการผ่าตัด ปวดหลังจากการมีบาดแผล พังผืด ปวดหลังและปวดคอ


คอลลาเจน Type II กินแล้วช่วยอะไร?

คอลลาเจน Type II กินแล้วช่วยอะไร?

คอลลาเจนประเภทที่ 2 จัดเป็นโปรตีนดีที่สุด สำหรับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากภาวะภูมิต้านตนเอง หรือผู้ที่มีอาการปวดข้อเรื้อรังทั้งที่ได้รับการวินิจฉัยหรือไม่ได้รับการวินิจฉัย ผู้ที่มีสภาวะภูมิต้านตนเองเช่นโรคไขข้อ ดูเหมือนจะตอบสนองได้ดีกับการทานคอลลาเจนประเภทที่ 2 เนื่องจากมีความสามารถในการลดการอักเสบของระบบ และผู้ที่มีข้อต่อแข็งและมีเสียงเอี๊ยดอ๊าด ก็ควรทานคอลลาเจนประเภทที่ 2  เป็นประจำเช่นกัน เพราะจะเข้าไปเพิ่มเนื้อเยื่อเกี่ยวพันและน้ำไขข้อรอบ ๆ แคปซูลของข้อต่อ ซึ่งช่วยทำให้มีน้ำหล่อลื่นมากขึ้น และบำรุงกระดูกอ่อนมากขึ้น ในการดูดซับแรงกระแทกในชีวิตประจำวัน ดังนั้น การเลือกประเภทของคอลลาเจน จึงมีความสำคัญมากเช่นกัน


อัตราการเสื่อมของคอลลาเจนในแต่ละช่วงวัย

อ้างอิงจากข้อมูลของโรงพยาบาลนวเวช กล่าวว่า ร่างกายของคนเราสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองได้ แต่จะค่อย ๆ ลด ในช่วงอายุ 20 ปี พบว่าจะลดลงร้อยละ 1 ในทุก ๆ ปี และจะหยุดลงในช่วงอายุ 45-50 ปี จึงทำให้ผิวของผู้ที่เริ่มมีอายุมากขึ้นมีความยืดหยุ่นน้อยลง และไขมันบางส่วนก็จะลดลง จึงทำให้ผิวบาง เกิดความเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอย แต่สิ่งนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีวิตามินซีสูง


เสริมความรู้เรื่องอัตราการเสื่อมของคอลลาเจน

เสริมความรู้เรื่องอัตราการเสื่อมของคอลลาเจน

อัตราการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน และได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งเราก็ได้นำภาพรวมทั่วไปของการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละกลุ่มอายุมาฝากกันแล้ว!

  • วัยเด็กและวัยรุ่น: ในช่วงนี้ระดับคอลลาเจนโดยทั่วไปจะมีมาก และค่อนข้างคงที่ ร่างกายจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การสังเคราะห์คอลลาเจน และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อมากกว่าการเสื่อมสภาพ
  • วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (อายุ 20 – 30 ปี): การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนเริ่มเกิดขึ้น แต่จะเป็นไปอย่างช้า ๆ การผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกายเริ่มลดลง และเกิดความสมดุลระหว่างการสังเคราะห์คอลลาเจน และการสลายตัวอาจเริ่มเปลี่ยนไปสู่การสลายตัวเล็กน้อย สัญญาณของการลดลงของคอลลาเจน เช่น เส้นริ้วหรือรอยเหี่ยวย่นมีน้อยมากหรือไม่มีเลย
  • วัยกลางคน (40 – 50 ปี): การเสื่อมสภาพของคอลลาเจน จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนขึ้นในระยะนี้ การผลิตคอลลาเจนที่ลดลงจะเร่งตัวขึ้น และการสลายตัวของคอลลาเจนจะเริ่มแซงหน้าการสังเคราะห์ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การปรากฏของริ้วรอย การสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวหนัง ข้อฝืด และลดความหนาแน่นของกระดูก
  • วัยผู้ใหญ่ตอนปลาย (60 ปีขึ้นไป): การสลายตัวของคอลลาเจนยังคงดำเนินต่อไปในอัตราเร่ง การผลิตคอลลาเจนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด และผลของการสูญเสียคอลลาเจนจะเด่นชัดขึ้น ผิวหนังอาจบางลง แห้ง และอาจพบความหย่อนคล้อยมากขึ้น สุขภาพของข้อต่ออาจทรุดโทรมลงอีก นำไปสู่อาการปวดและข้อแข็งมากขึ้น ความหนาแน่นของกระดูกอาจลดลงอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเสี่ยงต่อการแตกหัก

อย่างไรก็ตาม ช่วงอายุเหล่านี้เป็นช่วงอายุโดยประมาณ และการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยแต่ละบุคคล พันธุกรรม ทางเลือกในการใช้ชีวิต และสุขภาพโดยรวม นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกบางอย่างอาจส่งผลต่อการลดการผลิตคอลลาเจนได้ เช่น แสงแดด การสูบบุหรี่ และการกินสารอาหารที่ไม่ดี สามารถเร่งการเสื่อมของคอลลาเจนได้ในทุกช่วงอายุ


แหล่งคอลลาเจนประเภท II ที่พบได้ในอาหาร

แหล่งคอลลาเจนประภท II ที่พบได้ในอาหาร

แหล่งที่มาชนิดที่ II ได้แก่ กระดูกอ่อน อาหารเสริมโปรตีนคอลลาเจน น้ำซุปกระดูก หนังปลาและหมู และคอลลาเจนจากทะเล โดยเรามีข้อมูลที่น่าสนใจมาแนะนำกัน

1. อาหารเสริมโปรตีน คอลลาเจนชนิดที่ 2

อาหารเสริมคอลลาเจนประเภทที่ 2 ส่วนใหญ่ทำมาจากกระดูกอ่อนของไก่ แม้ว่าบางชนิดจะทำมาจากเนื้อหมูและกระดูกอ่อนของปลา น้ำซุปกระดูกไก่เป็นแหล่งอาหารที่หาทานง่าย และช่วยเสริมคอลลาเจนให้แก่คุณได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ แปลงสภาพ (หรือไฮโดรไลซ์) และไม่ได้แปลงสภาพ สำหรับการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และภาวะภูมิต้านตนเองอื่น ๆ แนะนำให้เลือกทานแบบที่ไม่ได้แปลงสภาพ

2. กระดูกอ่อน เช่น ปีกและตีนไก่

กระดูกอ่อนเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยเซลล์ที่เรียกว่า chondrocytes ซึ่งมีหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน คุณสามารถรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมคอลลาเจนได้ เช่น ปีกไก่ น่อง และตีนไก่ ชิ้นส่วนเหล่านี้ของไก่มีกระดูกอ่อนมากที่สุด และให้ประโยชน์สูงสุด

3. น้ำซุปกระดูกไก่

คอลลาเจนที่มีความเข้มข้นตามธรรมชาติ อยู่ในกระดูกอ่อนของไก่ แหล่งอาหารทั้งหมดที่ดีที่สุดจึงมาจากการดื่มน้ำซุปกระดูกไก่คุณสามารถทำได้ ด้วยการต้มโครงไก่และกระดูกอ่อนด้วยไฟอ่อน ๆ เป็นเวลานาน ทำให้กรดอะมิโน อิเล็กโทรไลต์ที่ให้ความชุ่มชื้น กลูโคซามีน และคอนโดรอิตินเข้มข้นผสมเข้าไปในน้ำซุปไก่

4. คอลลาเจนจากหนังปลา

คอลลาเจนจากหนังปลาเต็มไปด้วยคอลลาเจน ประเภทที่ 2 หรือกระดูกปลาก็อุดมไปด้วยคอลลาเจนเช่นกัน

5. หนังไก่และหมู

เมื่อพูดถึงการผลิตคอลลาเจน Type II ผิวหนัง 2 อาหารที่นิยมกินกันมากที่สุดคือเนื้อไก่และเนื้อหมู โดยเราขอแนะนำให้คุณกินหนังไก่หรืออกไก่และเนื้อหมู


และนี่ก็คือความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับคอลลาเจนประเภทที่ 2 ซึ่งคุณสามารถเพิ่มเติมคอลลาเจนให้กับร่างกายของตัวเองได้ จากการเลือกรับประทานอาหารเสริม หรือการเลือกรับประทานอาหารจากแหล่งธรรมชาติ และเป็นเหตุผลว่าทำไมความแตกต่างของคอลลาเจน Type I & II หรือ III นั้นให้ประโยชน์แก่ร่างกายต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณสนใจอยากจะลองรับประทานอาหารเสริมแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจสอบจาก อย. และอ่านข้อมูลของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญให้มั่นใจเสียก่อนที่จะรับประทาน


อ้างอิง:

บทความที่เกี่ยวข้อง

คอลลาเจนเปปไทด์
สาระความรู้
คอลลาเจนเปปไทด์ ทำความรู้จักคอลลาเจนยอดนิยม

มารู้จัก คอลลาเจนเปปไทด์ กันว่าคืออะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร แตกต่างกับคอลลาเจนประเภทอื่นอย่างไร และรับประทานคอลลาเจนอย่างไรให้ได้ผล

อ่านต่อ
คอลลาเจนบํารุงเส้นผม
สาระความรู้
คอลลาเจนบํารุงเส้นผม ได้อย่างไร ? พร้อมเคล็ดลับดูแลผมให้สวยสุขภาพดีอยู่เสมอ

คอลลาเจนบํารุงเส้นผม ? ปัญหาผมขาดหลุดร่วง ผมเสีย แห้ง กรอบ นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจและทำให้หลายคนขาดความมั่นใจไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

อ่านต่อ
คอลลาเจนไดเปปไทด์
สาระความรู้
คอลลาเจนไดเปปไทด์ คืออะไร ? รู้ให้ลึกก่อนเลือกรับประทาน 

คอลลาเจนไดเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่มีโมเลกุลที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ทำให้ร่างสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนปกติทั่วไป

อ่านต่อ
คอลลาเจนกินตอนไหน
สาระความรู้
คอลลาเจนกินตอนไหน ? ไขเคล็ดลับวิธีกินคอลลาเจนที่ดีที่สุด

คอลลาเจนกินตอนไหน ? คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์ที่หลายคนนิยมเลือกกินกันในปัจจุบัน เนื่องจากต้องการเสริมด้านผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม

อ่านต่อ