คอลลาเจน Type III คืออะไร? คือ โปรตีนอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ในร่างกาย และทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ให้ความแข็งแรงแก่เนื้อเยื่อคอลลาเจนชนิดที่ 3 ส่วนใหญ่ พบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น ผิวหนัง หลอดเลือด และอวัยวะต่าง ๆ นอกจากนี้ยังพบได้ในกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น คอลลาเจนชนิดที่ 3 มีบทบาทสำคัญ ในการรักษาความสมบูรณ์และการทำงานของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพโดยรวม
ภายในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความคอลลาเจนประเภทนี้ให้มากขึ้น โดยเราได้รวบรวมข้อมมูลมาดังนี้คอลลาเจน Type III คืออะไร? ดีต่อสุขภาพผิวจริงหรือ?, คอลลาเจนชนิดที่ 3 มีประโยชน์ในด้านใดบ้าง, หน้าที่ของคอลลาเจนชนิดที่ 3 ช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ของคอลลาเจนชนิดที่ 1, เคล็ดลับ 2 ข้อในการเพิ่มคอลลาเจนชนิดที่ 3, ทำไมต้องเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกาย? และ ทำไมหลาย ๆ คนถึงเลือกทานอาหารเสริมคอลลาเจน
คอลลาเจน Type III คืออะไร? ดีต่อสุขภาพผิวจริงหรือ?
คอลลาเจน Type III ทำงานควบคู่ไปกับคอลลาเจน Type I พบในผิวหนัง เอ็น หลอดเลือด และข้อต่อ และคอลลาเจน Type III มักจะพบจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า แต่ไม่พบจากทะเล คอลลาเจนประเภทนี้ ทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพผิวและทำให้เกิดความยืดหยุ่น ทำให้ผิวมีความเด้ง
จากการวิจัยพบว่าปริมาณคอลลาเจนชนิดที่ 3 ในผิวหนังลดลงตามอายุ ส่วน Type I ก็ลดลงเช่นกัน แต่จะลดในระดับที่น้อยกว่า และมีความสำคัญมากต่อการทำงานของไฟโบรบลาสต์ โดยไฟโบรบลาสต์เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้เอง เช่นเดียวกับอีลาสติน สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่อการรักษาบาดแผลและทำหน้าที่ดูแลสุขภาพผิวโดยรวม
คอลลาเจนชนิดที่ 3 มีประโยชน์ในด้านใดบ้าง
จัดเป็นโปรตีน ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกาย ทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนโครงสร้างแก่เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ โดยประโยชน์มีหลายด้านด้วยกัน
- สุขภาพผิว: มีบทบาทสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นของผิว ช่วยปรับปรุงความชุ่มชื้นของผิว ลดการปรากฏของริ้วรอย และส่งเสริมผิวที่อ่อนเยาว์และสดใสยิ่งขึ้น
- การรักษาบาดแผล: มีความเกี่ยวข้องกับการรักษาบาดแผลระยะแรก ช่วยในการสร้างหลอดเลือดใหม่ และช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย
- รองรับการทำงานอวัยวะต่าง ๆ : สามารถพบได้ในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ปอด และหลอดเลือด ซึ่งมีส่วนช่วยในความสมบูรณ์ของโครงสร้างและการทำงาน
- สุขภาพข้อต่อ: มีอยู่ในกระดูกอ่อน ซึ่งทำให้การกระแทกและรองรับข้อต่อได้ดี ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อ ลดการอักเสบ และช่วยสนับสนุนต่อสุขภาพข้อต่อโดยรวม
- ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ: มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของการรักษาหลังจากการบาดเจ็บ หรือความเสียหายที่เกิดจากการออกกำลังกาย
- สุขภาพของลำไส้: เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อบุลำไส้ ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของสิ่งกีดขวางในลำไส้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันสารอันตรายไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือด
- สุขภาพผมและเล็บ: มีส่วนช่วย ทำให้เส้นผมและเล็บแข็งแรง มีความยืดหยุ่น ส่งเสริมการเจริญเติบโตและป้องกันการเปราะบางของผม และเล็บ
ถึงแม้ว่าคอลลาเจนประเภทที่ 3 จะมีประโยชน์หลายประการ แต่โดยทั่วไปจะพบร่วมกับคอลลาเจนชนิดอื่น ๆ ในร่างกาย คอลลาเจนประเภทต่าง ๆ มีหน้าที่เฉพาะ และมีสัดส่วนที่แตกต่างกันในเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ
หน้าที่ของคอลลาเจนชนิดที่ 3 ช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ของคอลลาเจนชนิดที่ 1
เส้นใยคอลลาเจน Type III มีลักษณะไขว้กัน และก่อตัวเป็นตาข่ายเส้นใยที่มีความละเอียดอ่อนกว่า เส้นไขว้เหล่านี้ให้ความแข็งแรงภายใน และให้ความยืดหยุ่นแก่เนื้อเยื่ออ่อน เช่น อวัยวะ ผิวหนัง และกล้ามเนื้อ การวิจัยล่าสุดยังค้นพบว่าเส้นใยประเภท III นั้นจำเป็นต่อการสร้างเส้นใยที่ประกอบกันเป็นคอลลาเจนประเภทที่ 1 โครงสร้างคอลลาเจนเหล่านี้จะเกิดขึ้นในระหว่างการรักษาบาดแผลและการอักเสบ ส่วนคอลลาเจนประเภทที่ 2 จัดเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในกระดูกอ่อน ทำหน้าที่ต้านการอักเสบเพื่อลดอาการปวดข้อต่าง ๆ
เนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู และเนื้อวัว เป็นแหล่งที่ดีของคอลลาเจนชนิดที่ 3 ถ้าคุณอยากเสริมคอลลาเจนชนิดที่ 3 แนะนำน้ำซุปกระดูก และอาหารเสริมคอลลาเจนจากเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มการผลิตคอลลาเจนประเภทที่ 3 นั่นก็คือการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง วิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้จะให้กรดอะมิโนและส่วนประกอบอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการสร้างคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพ ทางเลือกที่ดีได้แก่ ไก่ ปลา หอย ไข่ขาว ถั่ว ผลไม้ ผลเบอร์รี่ ผักใบเขียว และถั่ว
เคล็ดลับ 2 ข้อในการเพิ่มคอลลาเจนชนิดที่ 3
วิธีเพิ่มคอลลาเจนสามารถทำได้ในหลากหลายด้าน โดยเรามีวิธีแนะนำกัน ดังนี้
กรดไฮยาลูรอนิก
กรดไฮยาลูโรนิกเป็นสารประกอบที่ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน ในการศึกษาปี 2014 นักวิจัยรักษาบาดแผลในหนูด้วยกรดไฮยาลูโรนิก หรือน้ำ แผลที่ได้รับการรักษาด้วยกรดไฮยาลูโรนิกจะดีขึ้นกว่าแผลที่รักษาด้วยน้ำ นอกจากนี้ ระดับของคอลลาเจน 2 ชนิดยังสูงกว่าในผิวหนังรอบ ๆ บาดแผลอีกด้วย
สารเติมเต็มผิวหนัง มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดริ้วรอยในผิวหนัง มักประกอบด้วยกรดไฮยาลูโรนิก การวิจัยในปี 2020 พบว่าส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกและโพลีนิวคลีโอไทด์บริสุทธิ์ช่วยเพิ่มปริมาณ และคุณภาพของคอลลาเจนในผิว และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
วิตามิน C
วิตามิน C เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตคอลลาเจน การขาดวิตามิน C อาจทำให้ระดับคอลลาเจนต่ำ ส่งผลทำให้เกิดภาวะร้ายแรงที่เรียกว่าเลือดออกตามไรฟัน ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างวิตามิน C ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับจากอาหาร
แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน C ได้แก่
- ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
- พริกเขียวหรือแดง
- สตรอเบอร์รี่
- บร็อคโคลี
ทำไมต้องเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกาย?
อ้างอิงข้อมูลจาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ให้ข้อมูลว่า คอลลาเจนที่มีโมเลกุลสั้น ๆ เช่น ไดเปปไทด์และไตรเปปไทด์ ร่างกายของเราสามารถดูดซึมได้ และยังมีการศึกษาเพิ่มเติม โดยเจาะกลุ่มเพศหญิงที่วัยเริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนพบว่าเมื่อรับประทานคอลลาเจน 4 สัปดาห์ ทำให้ริ้วรอยลดลงได้จริง
ทำไมหลาย ๆ คนถึงเลือกทานอาหารเสริมคอลลาเจน
เรามีข้อมูลที่สำคัญมาแนะนำกัน เพื่อคุณจะได้นำไปพิจารณาประกอบการเลือกทานคอลลาเจนอาหารเสริมของคุณกัน
1. อาหารเสริมคอลลาเจน ช่วยทดแทนสิ่งที่สูญเสียไปตามวัย
คอลลาเจนเป็น “กาว” ที่ยึดร่างกายของคุณไว้ด้วยกัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกายของคุณ จะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงตั้งแต่อายุ 30 – 40 ปี คอลลาเจนเปปไทด์ที่เพิ่มเข้าไปในอาหารของคุณ อาจทำหน้าที่ทดแทนสิ่งที่ร่างกายของคุณเริ่มขาด เมื่อคุณอายุมากขึ้น และสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของคุณ
2. คอลลาเจน จัดเป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่าย
การทานอาหารเสริมคอลลาเจน จะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ผ่านการไฮโดรไลซ์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้ร่างกายของคุณย่อยได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการเลือกทานอาหารเสริมคอลลาเจน จึงเป็นวิธีที่สะดวกสบายกว่า ในการรับโปรตีนเข้าสู่ร่างกายของคุณ และกระบวนการไฮโดรไลซ์ยังทำให้คอลลาเจนเปปไทด์สามารถละลายในน้ำได้ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการนำไปปรับกับการทานอาหารประจำวัน เช่น ผสมลงในน้ำหรือสมูทตี้
และนี่คือเหตุผลที่หลาย ๆ คนเลือกทานอาหารเสริมคอลลาเจน หรือสำหรับบางคนที่กังวลในเรื่องของการทานอาหารเสริมหรือมองว่าอาหารเสริมนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจำเป็น และเลือกรับประทานอาหารจากแหล่งธรรมชาติแบบสด ๆ แทน ก็สามารถทำได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และปัญหาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละคน แต่ก่อนที่คุณจะเลือกรับประทานไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมหรืออาหารจากธรรมชาติ คุณควรที่จะศึกษาถึงในเรื่องของปริมาณที่ควรรับในแต่ละวัน จำนวนที่คุณทานเข้าไปแล้วจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์สมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการนั่นเอง
อ้างอิง:
- คอลลาเจนกับการบำรุงผิวหนัง. https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/line/คอลลาเจนกับการบำรุงผิว/
- Ways to smooth the skin by boosting collagen levels. https://www.medicalnewstoday.com/articles/317151