อิลาสตินในผิว มีความสำคัญกับสาว ๆ ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากอิลาสตินนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญในผิว หากขาดสิ่งนี้ไปผิวที่เต่งตึงก็จะเหี่ยวย่นลง ซึ่งไม่ว่าใครก็คงไม่อยากจะให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับตัวเองแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงควรหาวิธีบำรุงผิว เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างสม่ำเสมอ ไม่เหี่ยวย่นนั่นเอง และวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกัยอิลาสตินว่าคืออะไร เหมือนและแตกต่างกับคอลลาเจนอย่างไร? พร้อมวิธีลดความเสื่อมของอิลาสตินและสาเหตุที่ทำให้มันถูกทำลาย มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง
อิลาสตินในผิว คืออะไร?
อิลาสตินในผิว คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่ในการให้ความยืดหยุ่นกับเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยให้ผิวของคนเรานั้น ยืดหยุ่น เต่งตึง แลดูมีน้ำมีนวล เนื่องจากโปรตีนในอิลาสตินมีลักษณะยึดโยงกันและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถยืดออกและหดตัวกลับได้ เปรียบเสมือนกาวที่ช่วยเชื่อมต่อเซลล์ผิวเข้าไว้ด้วยกัน
โดยอิลาสตินเกิดจากการรวมตัวกันของโมเลกุลขนาดเล็กในร่างกาย ที่เรียกว่า โทรโพอิลาสติน (Tropoelastin) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีมากที่สุดในร่างกาย และเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง เช่น ผิวหนัง ปอด กระเพาะปัสสาวะ หลอดเลือดใหญ่ เส้นเอ็น กระดูกอ่อนหู แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นอิลาสตินและคอลลาเจน ในผิวก็จะเริ่มลดลงทำให้ผิวเกิดการหย่อนคล้อย
นอกจากนี้หากผิวหนังไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมแล้วละก็ อิลาสตินในผิวหนังก็อาจเสื่อมสภาพก่อนวัย ส่งผลให้ผิวหนังเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย และขาดความยืดหยุ่น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สำคัญว่า ทำไมเราจึงควรรู้วิธีลดความเสื่อมของอิลาสตินในผิว เพื่อให้ผิวนั้นยังเต่งตึง และดูอ่อนกว่าวัยนั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่ามันมีคุณสมบัติคล้าย ๆ กับคอลลาเจน ฉะนั้นมาดูกันในหัวข้อถัดไปว่าอิลาสตินกับคอลลาเจน เหมือนกันหรือไม่
อิลาสติน กับ คอลลาเจน เหมือนกันหรือไม่
อิลาสตินในผิวกับคอลลาเจน สองตัวนี้มีหน้าที่เหมือนกันหรือไม่? โดยอิลาสตินจะมีหน้าที่ คือให้ความยืดหยุ่นกับเนื้อเยื่อในร่างกาย ซึ่งจะให้ความยืดหยุ่นมากกว่าคอลลาเจนประมาณ 1,000 เท่า ส่วน คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้มากในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น ในบริเวณเส้นเอ็น และหลอดเลือด โดยถือว่าเป็นโปรตีนที่สำคัญต่อร่างกายและเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังมากถึง 75% ของร่างกาย นอกจากนี้คอลลาเจนยังมีหน้าที่ในการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอิลาสตินและคอลลาเจนจะเป็นโปรตีนเช่นเดียวกัน แต่ก็เป็นโปรตีนในชนิดที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังทำหน้าที่บางอย่างคล้ายกัน แต่เราสามารถแยกการทำงานของเซลล์สองชนิดนี้ได้ง่าย ๆ คือ อิลาสติน นั้นหน้าที่หลักคือการสร้างความยืดหยุ่น ส่วนคอลลาเจนไม่เพียงแค่สร้างความยืดหยุ่นเท่านั้นแต่ยังสามารถช่วยดูแลอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายให้แข็งแรงได้ด้วย นั่นคือสองความแตกต่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ อิลาสติน กับ คอลลาเจน นั่นเอง ต่อไปมาดูกันว่าหากไม่อยากให้อิสลาสตินเสื่อมสลายไป จะมีวิธีที่สามารถช่วยลดความเสื่อมของอิลาสตินในผิวอย่างไรบ้าง
เผยวิธีที่สามารถช่วยลดความเสื่อมของ อิลาสตินในผิว
อิลาสตินในผิว สามารถเสื่อมสลายไปได้ สำหรับวิธีเพิ่มอิลาสตินในผิวและป้องกันการเสื่อมสลายนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีนั้นล้วนแล้วแต่ทำให้ผิวของเรานั้นดูอ่อนเยาว์ และดูเต่งตึงอยู่เสมอ โดยมีวิธีการดูแลผิวดังต่อไปนี้
- ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50 เพื่อช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อิลาสตินในผิวเสื่อมสภาพลง
- รับประทานอาหารที่มี อิ ลา สติ น ยกตัวอย่างเช่น ผักใบเขียว ผลไม้ อาหารเสริมโปรตีน อาหารที่มีไขมันต่ำ เป็นต้น อาหารเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตอิลาสตินออกมาได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนั่นเอง
- ทำความสะอาดผิว และบำรุงผิว โดยเป็นการบำรุงผิวด้วยการใช้ครีมบำรุงอย่างมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีกรดเฟรูลิก (Ferulic Acid) วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่มีส่วนช่วยทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ลดลงไป และทำให้ผิวของเรานั้นดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ร่างกายของเรานั้น ดูกระจ่างใส เนื่องจากเมื่อเราออกกำลังกาย ร่างกายของเราจะเผาผลาญพลังงานต่าง ๆ และยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญในเซลล์ผิวและเพิ่มการไหลเวียนของทำให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น
- ไม่ควรสูบบุหรี่ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ใบจาก บุหรี่มวน บุหรี่ซอง หรือบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากในบุหรี่ทุกชนิดที่กล่าวมานั้น มีสารนิโคติน และสารเคมีอื่น ๆ ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระที่อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้ผิวหนังของเราเกิดการอักเสบได้ และยังส่งผลให้อิลาสตินเสื่อมสภาพไวขึ้นอีกด้วย
อิลาสตินในผิว ถูกทำลายได้จากสาเหตุใดบ้าง?
จากผลการวิจัยพบว่าอิลาสตินในเซลล์ผิวของคนเรานั้น จะเริ่มถูกทำลายตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป และไม่สามารถสร้างใหม่เพื่อทดแทนได้ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผิวของเราถูกทำลายนั้น มีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก ๆ ด้วยกันคือ
- แสงแดดนับเป็นปัจจัยแรกที่ทำให้ผิวของเรานั้น โดนโจมตี และเสื่อมสภาพได้ง่าย เนื่องจากในแสงแดดนั้นประกอบไปด้วย รังสียูวีเอ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารอนุมูลอิสระ เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายเซลล์ผิวหนัง ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดฝ้า กระ ริ้วรอย ร่องผิวลึก และอาจร้ายแรงถึงขึ้นกลายเป็นมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
- การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่นั้นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อิลาสตินในผิวของเรานั้นเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยมันจะเข้าไปทำลายเส้นใยอิลาสตินในผิวหนังแตกตัวและเสื่อมสลาย ซึ่งในกรณีของควันบุหรี่นั้นต่อให้เราไม่ได้เป็นผู้สูบ แต่รับควันบุหรี่มาจากผู้อื่น ก็ทำให้ร่างกายของเราสูญเสียอิลาสตินไปได้เช่นกัน
- การดื่มแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ นั้นมีส่วนสำคัญในการทำลายอิลาสตินใต้ผิวหนังเช่นกัน เพราะในเครื่องดื่มนั้นมีส่วนผสมมากมายที่ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายนั้นเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะในเส้นเลือดแดงที่มีอิลาสตินอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากปัจจัยหลักทั้ง 3 อย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปแล้วนั้น ยังมีเรื่องของการพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ความเครียด อายุที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม และการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ปัจจัยปลีกย่อยเหล่านี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของเรานั้นสูญเสียอิลาสตินไป นอกจากนี้อิลาสตินกับภาวะผิดปกติก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน คุณสามารถอ่านรายละเอียดได้จากหัวข้อถัดไปนี้
อิลาสตินกับภาวะผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า อิลาสติน นั้นมีอยู่ในส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายของเรา ซึ่งการขาดอิลาสตินนั้นจะทำให้ร่างกายของเรานั้นมีผิวที่เหี่ยวย่น ดูแก่ก่อนวัยแล้วนั้น มันยังส่งผลกระทบต่อส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย และก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย ดังนี้
- หลอดเลือดตีบตันที่เกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด เนื่องจากหลอดเลือดไม่สามารถลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงได้อย่างเหมาะสม จึงเกิดลิ่มเลือดอุดตัน หัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมองได้
- โรคหน้าแก่ (Cutis Laxa)เป็นโรคที่ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น จึงอาจส่งผลให้ผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อย มีรอยย่นก่อนวัยอันควร
- ถุงลมโป่งพอง (Emphysema)อาการของถุงลมโป่งพอนั้นมักเกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ ซึ่งส่งผลให้อิลาสตินเสื่อมสภาพ และอาจทำให้มีอาการหายใจลำบาก ไอ หายใจมีเสียงหวีด เหนื่อยล้า และถึงขึ้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
- โรคลิ้นหัวใจตีบโดยโรคหัวใจตีบนั้นเป็นอาการที่สามารถพบได้ตั้งแต่กำเนิด และอาการนี้ยังเกี่ยวข้องกับยีนอิลาสตินอีกด้วย เนื่องจากอิลาสตินนั้นมีหน้าที่ทำให้หลอดเลือดแดงใหญ่ขยายตัว แต่หากขาดสิ่งนี้ไปก็ทำให้เส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจแคบลง และไม่สามารถส่งเลือดเข้าสู่หัวใจได้
อิลาสตินในผิว เป็นเซลล์ที่สำคัญที่อยู่ภายในร่างกายของคนเรา ซึ่งหากขาดสิ่งนี้ไปแล้วละก็ ร่างกายก็จะเกิดสิ่งผิดปกติมากมาย อย่างที่เราได้นำเสนอไปแล้วในข้างต้น เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงต้องหมั่นใส่ใจเซลล์เหล่านี้ให้ดี ซึ่งถ้าหากทำตาม วิธีลดความเสื่อมของ อิลาสติน ในผิว แล้วละก็รับรองได้เลยว่าคุณจะสามารถรักษาสภาพอิลาสตินในร่างกายของคุณได้อย่างแน่นอน 100%
แหล่งที่มา:
- Elastin & Ceramide สารสำคัญช่วยลดริ้วรอย เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย. https://hd.co.th/elastin-ceramide
- อิลาสติน คืออะไร ควรดูแลสุขภาพผิวอย่างไรให้แข็งแรง. https://hellokhunmor.com/สุขภาพผิว/อิลาสติน-คืออะไร-ดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรง/