อิลาสติน คืออะไร ? เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ ซึ่งหากพูดถึงปัญหาผิวที่ทุกคนหวาดกลัวและไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เชื่อว่าหนึ่งในนั้นที่ผู้คนพากันนึกถึง คงหนีไม่พ้นกับปัญหาริ้วรอยหรือตีนกาที่เป็นสัญญาณของผิวแก่หน้าหมองกันอย่างแน่นอน เมื่อพูดถึงปัญหาผิวลักษณะนี้แล้ว สารสกัดอย่างอิลาสติน ที่เป็นโปรตีนที่อยู่ในชั้นผิวจะต้องเข้ามามีบทบาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในบทความชิ้นนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับอิลาสติน คืออะไร ? ทำความรูจักตัวช่วยผิวเด้ง ลดริ้วรอย รวมถึงพฤติกรรมป้องกันหน้าแก่ เพื่อให้คุณได้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นตัวการกระตุ้นทำให้หน้าแก่ก่อนวัยอันควร จะมีพฤติกรรมอะไรบ้าง และทำไมอิลาสตินถึงมีความสำคัญกับผิวอย่างไร ไปติดตามเนื้อหาที่นำมาฝากกันได้เลย
อิลาสติน คืออะไร ? สำคัญอย่างไรต่อผิว
อิลาสติน คืออะไร ? สิ่งนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ตามชั้นผิว มีหน้าที่ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เรียบเนียน และทำให้ผิวดูนุ่มเด้ง เต่งตึง แน่นอนว่าปัญหาผิวที่เริ่มมีริ้วรอยร่องลึก เกิดจากการเสื่อมสภาพของอิลาสติน และภาวะร่างกายที่ไม่สามารถผลิตโปรตีนชนิดนี้ให้กลับมาเป็นส่วนประกอบภายใต้ชั้นผิวได้อีก
เมื่อส่วนประกอบสำคัญอย่างอิลาสตินเสื่อมลง และร่างกายไม่สามารถผลิตเพื่อเพิ่มจำนวนได้มากเท่าเดิม ทำให้พื้นผิวดังกล่าวเกิดเป็นร่องลึก และปรากฏเป็นริ้วรอยแห่งวัยในที่สุด คาดว่าทุกคนที่อ่านมาถึงเนื้อหาในส่วนนี้จะได้เห็นภาพความสำคัญของอิลาสติน และสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังของมนุษย์เกิดริ้วรอยกันแล้ว ในบทความอิลาสติน คืออะไร? ทำความรู้จักตัวช่วยผิวเด้ง ลดริ้วรอยยังมีเนื้อหาอีกส่วนที่ตอบโจทย์กับผู้ที่ต้องการป้องกันการเกิดริ้วรอยร่องลึก เพราะโปรตีนชนิดดังกล่าวสามารถที่จะกระตุ้นได้ ให้ร่างกายกลับมาผลิตสารสกัดชนิดนี้ได้ แต่จะมีวิธีกระตุ้นในลักษณะใดได้บ้างนั้น ไปติดตามกันในหัวข้อถัดไปได้เลย
วิธีกระตุ้นอิลาสตินในร่างกาย เพื่อผิวสวยสุขภาพดี
ได้พาผู้อ่านไปรู้จักกับอิลาสติน คืออะไรกันมาแล้ว ในส่วนนี้จะเป็นการให้น้ำหนักกับวิธีการกระตุ้นอิลาสตินในร่างกาย เมื่อร่างกายสามารถสร้างอิลาสตินให้กลับมาทำงานได้ตามเดิม ก็จะช่วยช่วยลดริ้วรอย และทำให้ตีนกาดูตื้น จะมีวิธีกระตุ้นใดบ้าง และมีวิธีการอย่างไร ใครที่อดใจไม่ไหวกันแล้วไปติดตามกันต่อกับ 6 วิธีกระตุ้นอิลาสตินในร่างกาย
1. ป้องกันแดด
เรียกได้ว่าเป็นสิ่งพื้นฐานในการดูแลผิวที่ทุกคนรู้กันดี และส่งผลดีหลากหลายทางให้กับผิว เพียงแค่ทาครีมกันแดดเท่านั้น เพราะแสงแดดเป็นตัวการในการทำลายอิลาสตินในชั้นผิว และยังเป็นตัวการกระตุ้นให้เม็ดสีภายในผิวหนังเกิดการทำงานผิดปกติ จนกลายเป็นปัญหาผิวประเภทฝ้า กระ และจุดด่างดำอีกด้วย
ลักษณะแดดในประเทศไทยตอนนี้ ควรทากันแดดอย่างน้อย SPF 50 เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่ารังสีของดวงอาทิตย์จะไม่ทำร้ายเข้าไปในชั้นผิว เพราะนอกจากปัญหาฝ้ากระ และจุดด่างดำแล้ว การที่คุณเผชิญแสงแดดโดยตรงเป็นการเร่งปฏิกิริยาของผิวให้เกิดการเสื่อมสภาพ และทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัยได้โดยง่าย
2. เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องคุ้นเคยกับวลีที่ว่า You are what you eat นั้นหมายความว่าทานอะไรเข้าไปก็จะได้แบบนั้น การบำรุงที่ดีที่สุดคือการบำรุงร่างกายจากภายในสู้ภายนอก โดยเลี่ยงการรับประทานน้ำตาล หรือของหวานให้น้อยลง เนื่องจากน้ำตาลเป็นตัวการหลักในการบ่อนทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน
โดยสิ่งที่คุณควรเลือกรับประทานเพิ่มขึ้นคือ ผักใบเขียว และผลไม้ ที่นอกจากจะช่วยในการเพิ่มไฟเบอร์ให้กับร่างกาย เพิ่มกากใยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถขับของเสียออกได้ง่ายเป็นพิเศษ ในผัก และผลไม้นั้นยังอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย รวมถึงผิวพรรณอีกด้วย ใครที่อยากจัดตารางการรับประทานอาหารของตัวเองใหม่อยู่ ลองเพิ่มเมนูผักใบเขียว หรือเปลี่ยนของหวานเป็นผลไม้ก็น่าสนใจไม่น้อย
3. อย่าปล่อยหน้าแห้ง
อาจจะดูเป็นคำแนะนำทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่าหลังจากที่คุณล้างหน้า เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกระหว่างวันแล้ว การปล่อยให้หน้าแห้งเองโดยอัตโนมัตินั้นเป็นการทำลายค่าความสมดุลของผิว คุณควรที่จะใช้ผ้าสะอาดซับใบหน้าเพื่อไม่ให้หน้าแห้งจนเกินไป หรือการทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดูดีทีเดียว
จุดที่อยากชวนทุกคนสังเกต การเลือกครีมเพื่อทาหน้านั้นไม่จำเป็นเลยที่จะต้องใช้ครีมราคาแพง เพราะสิ่งที่สำคัญในการทาครีมคือความต่อเนื่อง และความถี่ที่สม่ำเสมอ คุณควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ตอบโจทย์ทั้งปัญหาผิวของคุณ และสภาพผิวเพื่อให้ครีมบำรุงสามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
4. ออกกำลังกายไม่ขาด
หลายคนอาจไม่รู้ความสัมพันธ์กันระหว่างการออกกำลังกาย และการกระตุ้นอิลาสตินในชั้นผิวว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร การออกกำลังกายนั้นจะเป็นการส่งเสริมระบบภายในร่างกายหลาย ๆ ส่วนให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ หนึ่งในระบบที่เกี่ยวข้องโดยตรงเกี่ยวกับผิวพรรณคือ ระบบการหมุนเวียนของเลือดภายในร่างกาย เพราะใต้ชั้นผิวหน้าก็ต้องอาศัยเลือดในการหล่อเลี้ยงสารอาหาร ยิ่งหลอดเลือดมีความแข็งแรง ก็นำส่งอาหารไปหล่อเลี้ยงในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี
5. ไม่สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
คาดว่าสองสิ่งนี้จะเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่หลายคนเคยทำกันอยู่บ่อยครั้ง และเชื่อว่าทุกคนรู้โทษของการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์กันอยู่แล้ว การสูบบุหรี่นั้นจะยิ่งทำให้ผิวหน้าแห้ง ปากสีเข้ม และยังบ่อนทำลายคอลลาเจนที่อยู่ใต้ชั้นผิวอีกด้วย สำหรับการดื่มแอลกอฮอล์นั้นก็มีโทษร้ายแรงไม่แพ้กัน เพราะแอลกอฮอล์นั้นทำลายสารต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย หากสารต้านอนุมูลอิสระยิ่งต่ำ ก็ยิ่งทำให้สัญญาณแก่ก่อนวัยเกิดขึ้นกับคุณได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น
การเลิกทั้งการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่คุณสามารถทำได้แน่ โดยคำแนะนำคือการค่อย ๆ ปรับปริมาณทั้งความถี่ในการสูบบุหรี่ และปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ต่อวันให้น้อยลงเรื่อย ๆ จนกว่าจะละการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ได้ รับรองว่าหลังจากที่คุณละ 2 พฤติกรรมนี้ได้จะสังเกตได้เลยว่าผิวพรรณดีขึ้น หน้าตาดูสดใสกว่าแต่เดิมหลายเท่าตัว
6. พักผ่อนให้เพียงพอ
สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้กับการนอนพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบภายในร่างกาย และสิ่งที่สึกหรอได้ฟื้นฟูตามกระบวนการทั่วไป หากคุณนอนน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็จะทำให้การฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอภายในมีปัญหา และไม่สามารถทำการเยียวยาเซลล์ที่ผิดปกติได้อย่างเต็มที่ ใครที่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นนอนน้อย และพักผ่อนไม่เพียงพอ อยากให้รู้ไว้ว่าการทาครีม หรือทานวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทดแทนการพักผ่อนให้เพียงพอได้
นี่เป็นเนื้อหาทั้งหมดเกี่ยวกับอิลาสติน คืออะไร ? ทำความรูจักตัวช่วยผิวเด้ง ลดริ้วรอย คาดว่าน่าจะช่วยทำให้คุณได้รู้จักกับโปรตีนชนิดนี้มากยิ่งขึ้น รวมถึงวิธีการกระตุ้นอิลาสตินในร่างกายที่จะช่วยทำให้ผิวเด้ง ดูเด็กได้แบบง่าย ๆ แล้ว อิลาสตินยังเป็นส่วนประกอบที่มีอยู่ร่างกาย หากคุณดูแล และเพิ่มอัตราการเกิดของอิลาสตินให้ร่างกายสามารถผลิตได้เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากผิวพรรณที่ใบหน้าจะสดใส ริ้วรอยมีน้อยแล้ว ผิวกายเองก็จะเนียนนุ่ม เนียนเด้งไปด้วยนั่นเอง
แหล่งที่มา:
- อิลาสติน คืออะไรควรดูแลสุขภาพผิวอย่างไรให้แข็งแรง. https://hellokhunmor.com/สุขภาพผิว/อิลาสติน-คืออะไร-ดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรง/