7 เคล็ดลับบำรุงเล็บให้แข็งแรงอยู่เสมอ พร้อมเผยสาเหตุเล็บฉีกง่าย

7 เคล็ดลับบำรุงเล็บให้แข็งแรงอยู่เสมอ พร้อมเผยสาเหตุเล็บฉีกง่าย

Table of Contents

เล็บ เป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ได้แก่ ป้องกันอันตราย รับความรู้สึก ใช้สำหรับการหยิบจับของเล็ก ๆ น้อย ๆ ช่วยในการเคลื่อนไหวของนิ้วเท้าได้ดียิ่งขึ้นและเป็นแหล่งบ่งบอกถึงความเจ็บปวดของโรคบางชนิด ไปจนถึงสุขภาพของผู้ที่เป็นเจ้าของเล็บได้ ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเวลาที่เราเจ็บป่วยหรือมีอาการผิดปกติใด ๆ ทางร่างกายก็สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนเล็บได้เช่นกัน เช่น เล็บเปราะ ฉีก หักง่าย โคนเล็บเปลี่ยนสี สงสัยใช่ไหมว่าสัญญาณเตือนเหล่านี้บ่งบอกอะไร และความผิดปกติที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจ พร้อมเผย 7 เคล็ดลับบำรุงเล็บ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ และเข้าใจพฤติกรรมที่มีส่วนให้เล็บเปราะหักง่าย


7 เคล็ดลับบำรุงเล็บให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อเล็บสวยสุขภาพดี

7 เคล็ดลับบำรุงเล็บ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อเล็บสวยสุขภาพดี

อยากให้เล็บดูสวยใสสุขภาพดีลอง 7 เคล็ดลับบำรุงเล็บ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ เริ่มต้นตั้งแต่นวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด, ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บเป็นประจำ, เลือกใช้ครีมบำรุงจมูกเล็บ, ใช้ยาทาเล็บที่ปราศจากสารเคมีอันตราย, หมั่นทำสปาเล็บ, หมั่นเติมสารอาหารบำรุงเล็บ ไปจนถึงปรับพฤติกรรม แต่จะทำยังไงไปดู 

1. กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดด้วยการนวด 

คุณปรัชญมน บุรณศิริ กูรูด้านการดูแลมือและเล็บชื่อดัง ได้เปิดเผยข้อมูลว่า การนวดกดจุดมือช่วยให้เล็บและผิวดูสุขภาพดี ไม่แห้งกร้าน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ครีมบำรุงสามารถซึมเข้าผิวได้ดียิ่งขึ้น โดยมีขั้นตอนในการนวดกดจุดบริเวณมือ ดังนี้

  • นวดหลังมือเบา ๆ โดยเริ่มจากโคนนิ้วโป้งลงมายังข้อมือ
  • นวดและบีบปลายนิ้วโดยทำการนวดเบา ๆ จากโคนนิ้วไปยังปลายนิ้ว ทีละนิ้ว 
  • กดเบา ๆ บริเวณข้อนิ้ว 
  • บีบบริเวณปลายนิ้วเบา ๆ จนครบทุกนิ้ว
  • นวดฝ่ามือ โดยไล่จากโคนนิ้วแต่ละนิ้วลงมายังฝ่ามือ
  • หมุนนิ้วตามเข็มนาฬิกา นิ้วละ 3 รอบ
  • นวดแบบเดียวกันที่มืออีกข้าง 

2. ครีมบำรุง

เลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น

  • เคราติน
  • อะโวคาโดออยล์
  • น้ำมันจากสาหร่ายทะเล
  • อัลมอนด์ออยล์
  • อาร์แกนออยล์ 

3. หมั่นใช้ครีมบำรุงจมูกเล็บ

โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและให้เล็บกลับมาแลดูสวยสุขภาพดี ส่วนครีมบำรุงจมูกเล็บที่ควรเลือกเน้นครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว

4. ใช้ยาทาเล็บที่ไม่มีสารอันตราย 

โดยมองหายาทาเล็บที่มีหรือวิตามินช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรงสุขภาพดี และหลีกเลี่ยงยาทาเล็บที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตราย ดังนี้

  • Dibutyl Phthalate (ไดบิวทิลทาเลต) ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาทาเล็บเพื่อเพิ่มความคงทน แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นสารอันตรายหากสูดดมมากเกินไป 
  • Formaldehyde (ฟอร์มาลดิไฮด์) สารกันเสียเพิ่มความคงทนและช่วยให้น้ำยาทาเล็บยึดเกาะกับเล็บได้ดี หากมีการสัมผัสเป็นประจำอาจก่อให้เกิดผื่นคันอักเสบหรือผิวไหม้ได้
  • Toluene (โทลูอีน) มีคุณสมบัติช่วยให้น้ำยาทาเล็บมีเนื้อสัมผัสเรียบเนียน แต่หากสูดดมเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและระบบประสาท

5. ทำสปาเล็บบ่อย ๆ

อาจเลือกเดินทางไปร้านทำเล็บหรือสปาเล็บที่น่าเชื่อถือและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ หรือเลือกทำสปาเล็บเองที่บ้านด้วยตัวเองตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  • ล้างสีเล็บ โดยใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บ จากนั้นวางบนเล็บประมาณ 10 – 15 วินาที เมื่อครบเวลาให้ใช้สำลีลูบออกอย่างเบามือ จนกว่าสีเล็บจะหลุด
  • ตัดเล็บ 
  • หากตะไบเล็บไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการ เคล็ดลับ คือ ต้องตะไบไปทางเดียวกัน
  • เล็มหนังกำพร้า โดยเฉพาะบริเวณที่พบว่ามีหนังกำพร้าส่วนเกินเยอะ เพื่อป้องกันการฉีกขาดในอนาคต
  • แช่ด้วยนมอุ่น อัตราส่วนน้ำอุ่นกับนม คือ 2 : 1 โดยแช่ไว้ประมาณ 10 นาที
  • สครับมือ อาจเลือกใช้สครับน้ำตาลหรือสครับกาแฟหรืออื่น ๆ ได้ตามความต้องการ โดยถูมือทั้งสองข้างไปมาช้า ๆ และทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • เพิ่มความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์

หากต้องการทาสีเล็บใหม่ควรปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  • ทา base coat ก่อนเสมอ
  • ทาสีเล็บ เริ่มทาจากปลายขอบ ก่อนทาบริเวณกลางเล็บ 
  • ควรใช้ top coat หรือน้ำยาเคลือบเล็บ พร้อมกับบำรุงด้วยออยล์

6. กินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน 

นอกเหนือจากการบำรุงเล็บจากภายนอกแล้วการเริ่มต้นจากภายในก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการกินอาหารเสริมเติมสารอาหารเพิ่มความแข็งแรงของเล็บและลดปัญหาเล็บเปราะหักง่าย ได้แก่ สังกะสี ไบโอติน วิตามินบี 3 วิตามินบี 12

7. เปลี่ยนพฤติกรรม 

  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมใดที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเล็บฉีกขาดและเปราะง่าย เช่น แงะ แกะ หรือกัดเล็บ
  • หลีกเลี่ยงการล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเล็บเป็นเชื้อรา จากการสูญเสียสารบำรุงตามธรรมชาติ

เล็บเปราะฉีกหักง่าย เกิดจากอะไร

เล็บเปราะฉีกหักง่ายเกิดจากอะไร

สาเหตุหลักที่ทำให้เล็บเปราะฉีกหักง่าย คือ ขาดสารอาหาร โดยเฉพาะสารอาหารประเภทวิตามินและโปรตีน หรือเล็บบ่งบอกได้ถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ผู้ที่ประสบปัญหานี้ต้องกินอะไรให้เล็บแข็งแรง หลัก ๆ ประกอบด้วยวิตามินและสารอาหาร ดังนี้ 

1. เสริมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ

  • ธาตุเหล็ก ปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 15 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี ปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 1,000 – 2,000 มิลลิกรัม
  • วิตามินดี ขึ้นอยู่กับอายุและผู้มีความเสี่ยง
    • อายุน้อยกว่า 1 ปี 10 ไมโครกรัม 
    • 1 – 70 ปี 15 ไมโครกรัม 
    • 70 ปีขึ้นไป 20 ไมโครกรัม
    • สตรีที่วางแผนตั้งครรภ์ 10 ไมโครกรัม
    • สตรีตั้งครรภ์ที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง 50 – 100 ไมโครกรัม
  • วิตามินบี 7 600 – 2,400 ไมโครกรัม

2. เสริมโปรตีนให้เพียงพอ

พฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • ไม่ได้ออกกำลังกาย ควรได้รับโปรตีนวันละ 0.8 – 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
  • ออกกำลังกาย ควรได้รับโปรตีนวันละ 2 – 3 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

สาเหตุ เล็บเปราะหักง่าย

สาเหตุ เล็บเปราะหักง่าย

นอกเหนือจากการขาดสารอาหารก่อนหาวิธีบํารุงเล็บ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาเล็บเปราะหักง่ายที่ต้องรู้ ได้แก่ ภาวะขาดน้ำ, ขาดความชุ่มชื้น, ทาเล็บบ่อยเกินไป และได้รับน้ำมากเกินไป โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • ร่างกายขาดน้ำ หากร่างกายขาดน้ำจะส่งผลให้เล็บไม่แข็งแรงและเปราะบาง 
  • ความชุ่มชื้นในเล็บลดลง ควรแก้ไขด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว เช่น ทาออยล์หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ 
  • ทาเล็บบ่อยเกินไป หากเลี่ยงไม่ได้ควรเลือกยาทาเล็บที่เป็นมิตรต่อเล็บแทน อย่างพวกยาทาเล็บออร์แกนิกหรือไร้สารเคมี
  • สัมผัสน้ำมากเกินไป เช่น ซักผ้า ล้างจาน ถูบ้าน ทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับน้ำ และจำเป็นต้องสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลทำให้เล็บอ่อนแอและฉีกหักง่ายทั้งสิ้น

พฤติกรรมที่มีส่วนให้เล็บเปราะหักง่าย

พฤติกรรมที่มีส่วนให้เล็บเปราะหักง่าย

หากคิดว่าปัญหาเล็บเปราะหักง่ายที่กล่าวไปข้างต้นยังไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพลก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าวโดยไม่รู้ตัว นั่นคือ การทำความเข้าใจพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ก่อน เพื่อปรับพฤติกรรม ก่อนมองหาวิตามินหรืออาหารเสริมมาทานเสริมช่วยให้เล็บแข็งแรง ซึ่งพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อเล็บ เช่น 

  • การกัดเล็บ หลายครั้งเรื่องการเข้าสู่สภาวะเครียด ร่างกายจะมีการตอบสนองต่อปฏิกิริยาดังกล่าวด้วยการพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น กัดเล็บ โดยพฤติกรรมเหล่านี้มีผลต่อความแข็งแรงของเล็บ เช่น เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื้อข้างเล็บเปื่อยยุ่ย จนกลายเป็นปัญหาตามมา
  • ตะไบเล็บผิดวิธี เช่น ตะไบเล็บไปคนละทาง หรือตะไบแรงเกินไป อาจส่งผลให้เล็บฉีกขาดหรือมีโอกาสฉีกขาดง่ายขึ้น
  • เล็มจมูกเล็บ จมูกเล็บถือเป็นส่วนที่มีความบอบบางที่สุด หากได้รับบาดเจ็บหรือมีปัจจัยกระตุ้นเพิ่มความอ่อนแอ อาจเสี่ยงทำให้จมูกเล็บลอก มีเลือดออก ไปจนถึงเล็บเปราะ ดังนั้น จึงไม่ควรเล็มไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ก็ตาม

เคล็ดลับการบำรุงเล็บที่ดีไม่มีอะไรดีไปกว่าการดูแลทั้งภายในและภายนอก เริ่มต้นตั้งแต่การเลือกครีมบำรุง การไม่ทาสีเล็บบ่อยเกินไป การปรับพฤติกรรม ไปจนถึงกินอาหารเสริมเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เล็บ เช่น ไบโอติน ธาตุเหล็ก วิตามินซี วิตามินดี ซึ่งไม่สามารถเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ดังนั้น ใครที่พบว่าตนเองกำลังมีปัญหาก็อย่าลืมใส่ใจครบทั้งสองด้าน


อ้างอิง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประโยชน์ของเจลาติน มีอะไรบ้าง ครอบคลุมส่วนไหน
สาระความรู้
ประโยชน์ของเจลาติน มีอะไรบ้าง ครอบคลุมส่วนไหน

เคยสงสัยไหมว่า เวลาพูดถึงคอลลาเจน ทำไมมีเจลาตินเข้ามาเป็นหนึ่งในหัวข้อสนทนา แล้วแท้จริง ประโยชน์ของเจลาติน นั้นมีอะไรบ้าง? ไปหาคำตอบด้วยกัน

อ่านต่อ
เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?
สาระความรู้
เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?

เจลาติน vs คอลลาเจน ต่างกันอย่างไร ตั้งแต่กระบวนการผลิต จุดประสงค์ในการใช้งาน คุณสมบัติ ไปจนถึงแคลอรี ควรเลือกแบบไหนดี?

อ่านต่อ
เจลาตินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร หาได้จากที่ไหน
สาระความรู้
เจลาตินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร หาได้จากที่ไหน

เจลาตินคืออะไร ? คำตอบคือ โปรตีนที่ได้จากการสลายตัวของคอลลาเจน (ปรุงสุก) มีลักษณะหนืดคล้ายเจลหรือเยลลี่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดี

อ่านต่อ
3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง ช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องรู้
สาระความรู้
3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง ช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องรู้

3 สัญญาณเข้าสู่วัยทอง วิธีการรับมือกับช่วงวัยที่ใกล้หมดประจำเดือน จะมีอะไรที่คุณควรรู้บ้างนั้น เรารวบรวมมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ
เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก
สาระความรู้
เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก ดูแลผิวอย่างไร ถ้าไม่อยากให้แก่ไว 

เคล็ดลับบำรุงผิวเด็ก ถ้าไม่อยากให้แก่ไว คือ ทาครีมกันแดด นอนหลับอย่างมีคุณภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเสริมด้วยเคล็ดลับบำรุงผิว

อ่านต่อ
อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง
สาระความรู้
15 อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง พร้อมเทคนิคฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน

15 อาหารฟื้นฟูผิวแห้ง อุดมไปด้วยโปรตีน โอเมก้า 3 วิตามินบี 7 และวิตามินเอ พร้อมเทคนิคฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน สำหรับคนผิวแห้ง

อ่านต่อ